แม่ทัพภาค 2 ชื่นชม 16 ทหารกล้า ปกป้องแผ่นดิน ไม่ขี้ขลาด ไม่ถอย ไม่ยอมศัตรู ลั่น เกียรติทหารกลับมาแล้ว ต้องรักษาไว้ให้ดี ชี้สถานการณ์ยังไม่ยุติ และไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น เผย 2 คำถามที่ตอบยากที่สุด และสะเทือนใจที่สุด

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ที่หอประชุมกิติขจร กองบัญชาการกองทัพบก พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บรรยายพิเศษ ภายหลังพิธีสดุดีทหารกล้าและมอบความช่วยเหลือแก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า น้องๆ เหล่านี้ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ต้องชื่นชมและสดุดีวีรกรรม 16 ท่าน ที่เกิดมาเพื่อปกป้องแผ่นดินอย่างแท้จริง ชีวิตที่เขาได้เสียไปนั้นคุ้มค่ากับการเกิดมาบนแผ่นดินไทย เป็นสิ่งที่หาได้ยาก และเป็นสถานการณ์ที่ต้องการพวกเขา น้องๆ ทุกคนกล้าหาญ

ตนเป็นผู้บัญชาการรบเห็นเหตุการณ์มาโดยตลอด และให้กำลังใจทุกคน รวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งที่เราได้มานั้น คือความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ และบรรพบุรุษของเรา ที่ได้เห็นลูกหลานได้ทำหน้าที่เหมือนพวกเขา ไม่ขี้ขลาด ไม่ถอย ไม่ยอมศัตรู ดั่งที่บรรพบุรุษของเราได้ทำมาในอดีต และปัจจุบันก็ยังมีเพื่อนๆ และน้องๆ ของเขายังอยู่ในพื้นที่เหมือนเดิม พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เช่นเดียวกับที่พวกเขาได้ทำ ไม่เคยกลัวเลย ถ้าน้องๆ เหล่านี้ใจไม่ถึงจะไม่สามารถที่จะยืนหยัดต่อหน้าศัตรูได้เลย ตนต้องขอบคุณครอบครัวที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาทำหน้าที่นี้เพื่อแผ่นดินได้ และขอให้ทราบว่าน้องๆ ได้รับเกียรติสูงสุดแล้ว จากคนไทยทั้งประเทศ เขาได้เสียชีวิตอย่างมีเกียรติ

พวกเราที่นั่งอยู่ตอนนี้ และน้องๆ ก็พร้อมเช่นกันหากมีโอกาส เพราะเราได้เลือกเส้นทางนี้แล้ว แนวเส้นเขตแดนยังไม่ยุติ และยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต รุ่นหลังก็ขอให้ยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ 16 ท่าน พวกเราจะช่วยกันรักษาเส้นเขตแดนนี้อย่างเข้มแข็ง ขอให้มีความภาคภูมิใจ

คนทั้งประเทศรู้เรื่องนี้ ทหารถึงเวลาหนึ่งก็ต้องปกป้อง แม้จะเสียชีวิตก็ยอม สังคมไทยรู้ความจริง โดยไม่ต้องพูดให้เขาฟัง เพราะเขาเห็น แม่ทัพก็ไม่ต้องอธิบายมาก จึงมีศักดิ์ศรีของทหารไทยมาทุกวันนี้เพราะวีรกรรมของน้องๆ 16 ท่าน เป็นจุดประเด็นที่ทำให้คนไทยหูตาสว่าง
เพื่อกระตุ้นความรักชาติของแผ่นดินของตัวเอง สิ่งที่ได้ยินได้ฟังมานั้นบางอย่าง คนไทยรู้แล้วว่าไม่จริง แม่ทัพก็ได้อานิสงส์จากการเสียสละของน้องๆ โดยตรงเช่นกันที่จะนำความรักความสามัคคีของคนในชาตินี้ให้เกิดความเข้มแข็ง

พลโทบุญสิน กล่าวต่อว่า ควรตระหนักในการปฏิบัติหน้าที่และคุณธรรมจริยธรรมประจำตัวของเรา ในเวลานี้ศักดิ์ศรีของทหารได้มาอยู่กับพวกเราแล้ว ศักดิ์ศรีของคนไทยที่จะซื่อสัตย์สุจริตและร่วมกันปกป้องประเทศก็มีแล้ว เราจะทำอย่างไรเพื่อรักษาสิ่งเหล่านี้ ขอให้ช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน และมีความเข้มแข็งตราบนานเท่านาน

พลโทบุญสิน ย้ำว่า มีคนถามว่ามีมวลชนขนาดนี้ ตั้งพรรคให้ และขอให้มาช่วย เพราะไม่มีใครเหมาะสมแล้ว แม่ทัพก็ขอบคุณ แต่ไม่ถนัดในด้านนี้ โดยเลือกที่จะไม่รับหน้าที่ใดๆ เพราะสิ่งเหล่านั้น อาจทำให้ตัวแม่ทัพไม่เหมือนทุกวันนี้ และน่าจะเป็นสิ่งนี้ที่ทำให้ประชาชนคิดว่าแม่ทัพบุญสินยังอยู่กับประชาชน โดยจะใช้เวลาที่เหลือในการทำหน้าที่อดีตทหาร เพื่อให้ประเทศชาติของเรามีความเข้มแข็ง และเพื่อสถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

โดยในการบรรยายตอนหนึ่ง พลโทบุญสิน กล่าวว่า คำถามที่ตนตอบยากที่สุดคือ ถ้าแม่ทัพเป็นนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไร ส่วนคำถามที่สะเทือนใจที่สุด คือ แม่ทัพได้พูดคุยกับญาติของกำลังพลที่เสียชีวิตอย่างไร

...