เขื่อนเจ้าพระยา ทยอยปรับลดการระบายน้ำ พร้อมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์พายุ "บัวลอย" กระทบไทย ด้านหัวหน้าสำนักงาน ปภ. เผยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังมีกว่า 222 ครัวเรือน

วันที่ 25 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ทางเขื่อนเจ้าพระยาทยอยปรับลดการระบายน้ำ จากอัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที เหลืออัตรา 2,100 ลบ.ม./วินาที หลังตรึงการระบายมาครบ 1 สัปดาห์ สถานการณ์น้ำเหนือ และท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มดีขึ้นตามลำดับ หากไม่มีฝนตกซ้ำจากพายุบัวลอย พายุโซนร้อนลูกที่ 20 ที่ล่าสุดยกระดับแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว จ่อถล่มฟิลิปปินส์ ก่อนมุ่งหน้าทะเลจีนใต้ 26-27 ก.ย. 68

โดยสภาพน้ำท่า ล่าสุดที่สถานี C.2 จ.นครสวรรค์ วัดปริมาณน้ำไหลผ่านได้ 2,303 ลบ.ม./วินาที ขณะที่สถานี C.13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำ 2,100 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 14.99 ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง 1.35 เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน 24 ซม. ส่วนระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 15.28 ม.รทก. ส่งผลให้พื้นที่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ต.โพนางดำ ต.ตลุก ต.หาดอาษา อ.สรรพยา บริเวณวัดสิงห์ วัดเสือจ้าม อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี คลองโผงเผง วัดไชโย อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และคลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับน้ำลดลง ลดผลกระทบต่อประชาชนในช่วงนี้

...

นายคำรณ อิ่มเนย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จำนวน 5 ตำบล 16 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบประชาชน 222 ครัวเรือน 584 คน

ด้านนายมนตรี คุ้มเขตร์ นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำออก ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว 2 เครื่อง บริเวณหมู่ที่ 1 บางใหญ่ ตำบลโพนางดำออก เพื่อเร่งระบายน้ำที่ซึมเข้าบ้านเรือนประชาชน ป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง และลดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และแจกถุงยังชีพไปยังบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่