นักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่ร่วมงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ 2568 พิธีศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง หนึ่งเดียวในโลกที่ จ.เพชรบูรณ์ ณ ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร


วันที่ 22 กันยายน 2568 ที่บริเวณท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร นายศรัญยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ในฐานะเจ้าเมืองเพชรบูรณ์พร้อมด้วยกรมการเมืองทั้ง 4 คือ ฝ่ายเวียง ได้แก่ พลตรีฐาวิรัฒน์ ยังน้อย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 ฝ่ายวัง ได้แก่ นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ฝ่ายคลัง ได้แก่ ว่าที่ร้อยตรีเสกสรร ปานถม ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองเพชรบูรณ์ และฝ่ายนา ได้แก่ ร้อยตำรวจตรีสุขสัณห์ ภิชัย นายกสมาคมเครือข่ายนักสื่อสารชุมชน ได้อัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ จากวัดไตรภูมิ แห่ลงเรือไปในลำน้ำป่าสัก ทวนกระแสน้ำขึ้นไป ณ วังมะขามแฟบ ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร สถานที่แรกที่มีคนหาปลาพบองค์พระฯ โดยมีขบวนเรือนางฟ้านางสวรรค์ ที่ร่วมขบวนแห่ไปตามลำน้ำอย่างสวยงาม ท่ามกลางประชาชนและชาวเพชรบูรณ์กว่า 5,000 คนที่มารอชมพิธีเต็มอัฒจันทร์ที่เตรียมไว้

...

เมื่อมาถึงวังมะขามแฟบ ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร นายวิทยา อาคมพิทักษ์ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบวงสรวงเทวดา เสร็จแล้วพราหมณ์ประกอบพิธีบวงสรวงเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

จากนั้นเป็น "พิธีอุ้มพระดำน้ำ" โดยนายศรัญยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ในฐานะเจ้าเมือง ซึ่งแต่งชุดไทยสีชมพูเข้ม พร้อมด้วยกรมการเมืองทั้ง 4 ฝ่ายที่แต่งกายชุดไทยสีม่วง ได้อัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาลงดำน้ำยังบริเวณพิธีที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยการดำน้ำจะดำ 2 ทิศ คือ ทิศเหนือและทิศใต้ ทิศละ 3 ครั้ง ก่อน-หลัง ตามคำเสี่ยงทาย โดยปีนี้ครั้งแรกเป็นทิศใต้ ครั้งที่สองทิศใต้ ครั้งที่ 3 ทิศเหนือ ครั้งที่ 4 ทิศเหนือ ครั้งที่ 5 ทิศใต้ และครั้งที่ 6 ทิศเหนือ

และขณะประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำนั้น นางฟ้านางสวรรค์ รวมทั้งประชาชนที่มาร่วมพิธีต่างก็ได้โปรยดอกดาวเรือง ดอกบัว ลงไปในน้ำเพื่อเป็นการสักการะบูชาองค์พระพุทธมหาธรรมราชา

เมื่อดำครบทั้ง 6 ครั้งแล้ว ได้อัญเชิญพระขึ้นเรือ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ก็ได้โยนขนม ข้าวต้ม ขนมกระยาสารท ที่ได้ปลุกเสกแล้วให้กับประชาชนที่มาเข้าร่วมพิธี ซึ่งก็ได้เกิดปรากฏการณ์รุมแย่ง เพราะว่าแต่ละคนก็อยากที่จะได้สิ่งของอันเป็นมงคลจากผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และจากนางฟ้านางสวรรค์ เป็นบรรยากาศที่มีแต่ความสุข สนุกสนาน

สำหรับประเพณีอุ้มพระดำน้ำ มีตำนานที่ถูกเล่าขานมานานกว่า 400 ปี เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลกของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ออกหาปลาในแม่น้ำป่าสัก แต่อยู่มาวันหนึ่งเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น โดยกระแสน้ำในบริเวณวังมะขามแฟบ มีพรายน้ำผุดขึ้นมาทีละน้อยจนแลดูคล้ายน้ำเดือด จากนั้นกลายเป็นวังวนดูดเอาองค์พระพุทธรูปองค์หนึ่งลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ทำให้ชาวประมงต้องลงไปอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิ แต่ในปีถัดมาตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 วันประเพณีสารทไทย พระพุทธรูปดังกล่าวหายไป ชาวบ้านต่างพากันระดมหา สุดท้ายไปพบพระพุทธรูปกลางแม่น้ำป่าสัก บริเวณที่พบพระพุทธรูปองค์นี้ในครั้งแรกกำลังอยู่ในอาการดำผุดดำว่าย จึงได้ร่วมกันอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดไตรภูมิอีกครั้งหนึ่ง พร้อมร่วมกันถวายนามว่า "พระพุทธมหาธรรมราชา"

...

หลังจากนั้นต่อมาในวันสารทไทย หรือวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เจ้าเมืองเพชรบูรณ์จะทำพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา ลงประกอบพิธีดำน้ำเป็นประจำทุกปี โดยเชื่อว่าจะทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ไพร่ฟ้าประชาชนมีความสุข บ้านเมืองปราศจากโรคระบาดคุกคาม จนกลายมาเป็นประเพณีอุ้มพระดำน้ำอันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน.