ปภ. แจ้งเตือน 10 จังหวัด เฝ้าระวังระดับน้ำท้าย "เขื่อนเจ้าพระยา" เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกำชับ 4 จังหวัดพื้นที่เสี่ยง เตรียมรับมือสถานการณ์

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน ว่า คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,200 - 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี Ct.19 จังหวัดอุทัยธานีและลำน้ำสาขา อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 200 - 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ แบ่งรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 400 - 420 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

...

จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากเดิมไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได โดยปริมาณน้ำจะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.10 - 0.30 เมตร ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้

  • จังหวัดอ่างทอง บริเวณคลองโผงเผง บริเวณอำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก
  • จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณคลองบางบาล และแม่น้ำน้อย บริเวณอำเภอเสนา และอำเภอผักไห่
  • จังหวัดสิงห์บุรี บริเวณอำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภออินทร์บุรี และอำเภอพรหมบุรี
  • จังหวัดชัยนาท บริเวณอำเภอสรรพยา

ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ประสานจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างใกล้ชิด

รวมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือโดยสารสาธารณะ ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำและบริเวณจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม

นอกจากนี้ ยังได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับประชาชน ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ ทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT ทุกที่ ทุกเวลา.