สถานการณ์ "น้ำเจ้าพระยา" ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอ่วม เตรียมเร่งกั้นกระสอบทราย
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกรมชลประทานได้ปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจากอัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคงอัตราดังกล่าว เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน–น้ำท่า
...
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำบริเวณ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี วัดไชโย จังหวัดอ่างทอง โปรดเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ล่าสุดสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ พบว่ามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,237 ลบ.ม./วินาที ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำเหนือเขื่อน 17.22 ม.รทก. และระดับน้ำท้ายเขื่อน 14.99 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 30 ซม. ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.35 เมตร โดยมีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 438 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ
ทางด้านพื้นที่หมู่ 3 ต.หาดอาษา อ.สรรพยา ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมต่ำสุดของตำบล เริ่มมีน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว นางชัณณ์ญาช์ สุภาวิตา นายกเทศมนตรีตำบลหาดอาษา เปิดเผยว่า ได้อุดท่อระบายน้ำและวางแนวกระสอบทรายระยะทางกว่า 100 เมตรเพื่อสกัดน้ำ พร้อมเตรียมกระสอบทรายสำรอง หากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 10 ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นบ้านนอกคันกั้นน้ำ โดยได้แนะนำให้ประชาชนเก็บของขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปยังที่ปลอดภัย นายกเทศมนตรีฯ ยืนยันว่า หากการระบายน้ำเพิ่มถึง 2,500 ลบ.ม./วินาที จะเร่งเสริมแนวกระสอบทรายตลอดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร พร้อมชื่นชมการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานในปีนี้ที่ทำให้ชุมชนมีเวลาเตรียมรับมือได้ทัน.