"มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" เตรียมร่วมพิธีส่งเพย์โหลดงานวิจัย "ผลึกเหลว" ครั้งแรกของประเทศไทย ขึ้นสู่อวกาศร่วมกับ "นาซ่า" ในวันที่ 15 ก.ย.นี้

วันที่ 13 ก.ย. 2568 รศ.ดร.ณัฐพร ฉัตรแถม จากภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) จัดทำโครงการ Thailand Liquid Crystals in Space (TLC) เมื่อปี 2564 ในสมัย ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อดีตอธิการบดีมก. โดยได้รับการสนับสนุนหลักจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ทำการศึกษาผลึกเหลว (Liquid Crystals) ภายใต้สภาวะไร้แรงโน้มถ่วงบนสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station, ISS)

...

สำหรับ MOU นี้จัดทำขึ้นระหว่าง มก.กับนาซ่า เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เข้าร่วมในการศึกษาผลึกเหลวบนสถานีอวกาศนานาชาติ โดยตนและทีมงาน ซึ่งมีผู้ร่วมวิจัยหลักคือ ผศ. ดร. อภิชาต พัฒนโภครัตนา จากภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มก. ร่วมกันจัดสร้างอุปกรณ์อวกาศหรือเพย์โหลดของโครงการ TLC ซึ่งต้องผ่านกระบวนการทวนสอบโดยคณะกรรมการจากองค์การนาซ่าถึง 4 ครั้งและผ่านความเห็นชอบให้สามารถนำเพย์โหลดขึ้นสู่อวกาศได้

ขณะที่เพย์โหลดของโครงการ TLC จะขึ้นสู่อวกาศโดยถูกบรรจุในยาน Cygnus ของบริษัท Northrop Grumman เที่ยวบินที่ NG-23 ซึ่งอยู่ภายใต้ภารกิจ Commercial Resupply Service Mission (CRS) ของนาซ่า โดยยาน Cygnus จะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศโดยจรวด Falcon 9 ของบริษัท SpaceX ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในวันที่ 15 ก.ย. 2568 นี้ ที่แหลมคานาเวอรัล มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เวลา 05.02 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยมี ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดี มก. รศ.ดร.วันชัย ปลื้มภาณุภัทร คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มก. ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผอ.สกสว. และดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวด รองผอ.จีสด้า ร่วมในพิธีปล่อยยานอวกาศด้วย

รศ.ดร.ณัฐพร กล่าวต่อว่า การทดลองผลึกเหลว (Liquid Crystal) ในอวกาศ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยี Liquid Crystal Display (LCD) ขั้นสูงกว่าที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่ง LCD ใช้อยู่เป็นหน้าจอ โทรศัพท์มือถือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในคนไทยและทั่วโลก ซึ่งอุตสาหกรรมผลิตจอภาพ LCD ในปัจจุบันนี้มีมูลค่าประมาณ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และมีแนวโน้มจะโตถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2572 การทำการทดลองผลึกเหลวในอวกาศนั้นจะกำจัดผลของแรงโน้มถ่วงของโลกไปได้ ซึ่งจะลดปริมาณจุดบกพร่องภายในผลึกเหลวลงไปได้อย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้นผลึกเหลวในอวกาศจะตอบสนองต่อสนามไฟฟ้าได้ดี การพัฒนานี้จะทำให้ได้หน้าจอ LCD ที่มีความเร็วสูง ใช้ปริมาณไฟต่ำ และมีความคมชัดดีเยี่ยม ซึ่งสามารถพัฒนาต่อยอดให้สามารถสร้างบนพื้นโลกในสภาวะใกล้เคียงกับอวกาศได้ในอนาคต นอกจากนี้ นาซ่ายังมีแผนที่จะนำเทคโนโลยี LCD นี้ไปใช้กับหมวกของชุดนักบินอวกาศ และพัฒนาเทคโนโลยีนี้เป็นกระจกอัจฉริยะไปใช้กับหน้าต่างของกระสวยอวกาศที่สามารถทนความร้อนและรังสีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง

...

สำหรับภารกิจการทดลองในอวกาศจะใช้เวลา 3 เดือน รวมชั่วโมงการทดลอง 144 ชั่วโมง โดยนักบินอวกาศนาซ่า ร่วมกับทีมนักวิจัยจากประเทศไทยและนิสิตจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่จะประจำการภาคพื้นดิน ที่เมืองฮูสตัน มลรัฐเท็กซัส โดยเพย์โหลด TLC จะถูกส่งกลับมายังพื้นโลกโดยเที่ยวบิน SpaceX-33 ในเดือนมกราคม 2569 นี้ พร้อมกับข้อมูลการทดลองใน Hard Disk Drive SSD 6 TB และจะถูกนำส่งมายังประเทศไทยเพื่อให้ทีมวิจัยและนิสิตนักศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลการทดลองต่อไป

รศ.ดร.ณัฐพร กล่าวด้วยว่า การทำเพย์โหลดสำเร็จและพร้อมขึ้นสู่อวกาศในครั้งนี้ ทางทีมงานรู้สึกดีใจมาก ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมเต็มที่สำหรับการเดินหน้าไปสู่ภารกิจครั้งสำคัญในการทะยานขึ้นสู่อวกาศพร้อมสัญลักษณ์ธงชาติไทยอย่างสง่างาม ทีมงานขอขอบพระคุณ ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อดีตอธิการบดี รศ.ดร.อภิสิฏฐ์ ศงสะเสน อดีตคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ ศ.ดร. สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว.และดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร ผอ.บพค. ที่ให้โอกาสและสนับสนุนงบประมาณให้พวกเราจนโครงการบรรลุเป้าหมายและพร้อมขึ้นสู่อวกาศ

...

อย่างไรก็ตาม การส่งเพย์โหลดของประเทศไทยขึ้นสู่อวกาศร่วมกับองค์การนาซาในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นว่าความฝันและความพยายามสามารถพาเราไปไกลเกินกว่าขอบฟ้า อวกาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นอนาคตที่ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนไทย สามารถมีส่วนร่วมและสร้างสรรค์ได้ การศึกษาเกี่ยวกับอวกาศจึงไม่ใช่เพียงแค่การมองดูดาว แต่คือการเปิดประตูสู่โอกาส ความรู้ และแรงบันดาลใจ ที่จะพาประเทศไทยก้าวไปสู่โลกอนาคตอย่างมั่นคง ทั้งนี้ ขอเชิญชวนคนไทยร่วมส่งกำลังใจและติดตามภารกิจนี้ได้ที่ https://www.spacex.com/launches/ng23.