"เขื่อนเจ้าพระยา" เร่งระบายต่อเนื่อง ชาวบ้าน-ทหาร เร่งกรอกกระสอบทรายเสริมคันดินกั้นน้ำ ป้องกันน้ำที่เอ่อขึ้นมาเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน
วันที่ 13 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง เพราะยังมีมวลน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลมาสมทบอีก 2-3 วันข้างหน้า ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายอยู่ที่ 2,000 ลบ.ม./วินาที ส่วนเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ชะลอน้ำไว้ชั่วคราวลดความเสียหายท้ายเขื่อน ระดับน้ำเหนือเขื่อนจะสูงขึ้นอีกและรักษาระดับไม่เกิน +17.50 ม.รทก. ระดับน้ำเหนือและท้ายเขื่อนยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,246 ลบ.ม./วินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.21 ม.รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 14.68 ม.รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 1.66 ม.รทก.
ภายหลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา ได้มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำ บริเวณชุมชนวัดมะปราง ม.5 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ทหาร จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองบิน 4 ตาคลี ได้ร่วมกันกรอกและขนกระสอบทราย เพื่อนำไปเสริมคันดินกั้นน้ำให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันน้ำที่เอ่อขึ้นมาเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน
...
นายวิทยา ชพานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เผยว่า จากสถานการณ์น้ำดังกล่าว ทำให้ 4 อำเภอของจังหวัดชัยนาทเริ่มมีน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบ้างแล้ว บางส่วนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ และจากการคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา หากมีปริมาณฝนตกในอาทิตย์หน้า เขื่อนเจ้าพระยาก็จำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่ม
ทั้งนี้ ทางจังหวัดชัยนาทได้สั่งการให้ นายอำเภอ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองชัยนาท อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ และ อ.สรรพยา รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝน และน้ำท่า จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจะต้องรีบเร่งประสานประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งหากหลังจากนี้ไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มเติม ก็คาดการณ์ว่าน้ำในปีนี้ก็จะค่อยๆบรรเทาลง.