ชาวเมียนมา 171 คน สมัครใจเดินทางกลับ "มาตุภูมิ" หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ทำให้ปัจจุบันไม่มีผู้หนีภัยมาขอพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ฝั่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2568 เฟซบุ๊ก กรมกิจการพลเรือนทหารบก Directorate of Civil Affairs ได้โพสต์ภาพประชาชนชาวเมียนมาที่อพยพเข้ามาหลบภัยในพื้นที่ จ.ตาก เดินทางกลับมาตุภูมิด้วยความสมัครใจ พร้อมระบุข้อความว่า ที่นี่ชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก จากสถานการณ์ความไม่สงบใกล้พื้นที่ชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก โดยเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2568 กองกำลังชนกลุ่มน้อย กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาใช้อากาศยานไร้คนขับทิ้งระเบิดเป็นระยะ ๆ โจมตีฐานฯ ทหารเมียนมา ค่ายทีตาแหล่ บ.ทีตาแหล่ อ.วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ด้านตรงข้าม บ.วาเล่ย์เหนือ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 3 กม.
...
เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีประชาชนชาวเมียนมา บ.วาเล่ย์ใหม่ เกิดความกังวลใจ ประสานขออพยพข้ามชายแดนมายังฝั่งไทย บริเวณท่าข้ามวาเล่ย์ บ.วาเล่ย์ใต้ ศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก ได้ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมตามแนวทางของ สมช. และพักอาศัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวโกดังสหกรณ์การเกษตร อ.พบพระ จ.ตาก
ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลาย หน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.พบพระ ร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนที่ 346 สถานีตำรวจภูธรพบพระ และผู้นำชุมชนฝั่งไทย และเมียนมา ได้พบปะพูดคุยให้ข่าวสารถึงสถานการณ์และความปลอดภัย จึงทำให้ผู้หนีภัยความไม่สงบคลายความกังวลใจ มีความประสงค์ขอเดินทางกลับมาตุภูมิ ศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.ตาก จึงประสานงานร่วมอำนวยความสะดวกแก่ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวโกดังสหกรณ์การเกษตร อ.พบพระ จำนวน 171 คน เดินทางกลับมาตุภูมิด้วยความสมัครใจ ทำให้ปัจจุบันไม่มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาขอพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวฝั่งประเทศไทย
ขณะที่กองกำลังนเรศวร ขอแจ้งให้ทราบว่า ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย และไม่สนับสนุนให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง และขอขอบคุณความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ สื่อมวลชน และทุกภาคส่วน ในการพิจารณาข่าวสารข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ให้กับประชาชนเป็นอย่างดีเสมอมา.