พ่อค้ายืนยัน "ปลาช่อน" ที่ขายในตลาดโรงเกลือ ไม่ได้มาจาก "กัมพูชา" แต่นำเข้าจาก "เวียดนาม" ทั้งหมด เนื่องจากมีกลิ่นสาบค่อนข้างแรง ทำให้ไม่นิยมซื้อรับประทาน
วันที่ 19 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งปกติเป็นแหล่งซื้อขายสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปลาและสัตว์น้ำที่มีการค้าขายจำนวนมาก พบว่าบรรยากาศวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ร้านค้าหลายแห่งปิดเงียบ บางโซนแทบจะร้าง เนื่องจากชาวกัมพูชาซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานและผู้ค้าเดินทางกลับประเทศกันเป็นจำนวนมาก หลังจากด่านชายแดนไทย–กัมพูชาปิดชั่วคราว ส่งผลให้แผงค้าปลาหลายรายหยุดขายทันที
...
นายวิเศษ สมหันวล อายุ 55 ปี และนายฐิติศักดิ์ สมหันวล อายุ 25 ปี สองพ่อลูกเจ้าของร้านขายปลาทอดริมถนนสุวรรณศร ขาออกจากตลาดโรงเกลือ เผยว่า ร้านของตนต้องใช้ปลาสดจำนวนมากทุกวัน โดยเฉพาะปลาช่อนที่ถือเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งก่อนหน้านี้จะสั่งปลาจากประเทศเวียดนามผ่านด่านถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ สั่งครั้งละนับร้อยกิโลกรัมเพื่อให้เพียงพอต่อการขาย
แต่หลังจากด่านปิด ทำให้ไม่สามารถนำเข้าปลาได้ ส่งผลให้ต้องหันไปซื้อปลาจากตลาดในประเทศ เช่น ตลาดไทย จ.สระบุรี, ตลาดสตึก จ.บุรีรัมย์ รวมถึงจากบ่อเลี้ยงของชาวบ้านในพื้นที่แทน ส่งผลให้ต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งปริมาณปลาก็ไม่เพียงพอ ทำให้ปลาช่อนในตลาดขาดแคลนและราคาพุ่งสูงขึ้นทันที
จากเดิมกิโลกรัมละ 115–120 บาท ขยับขึ้นเป็น 200–220 บาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าปกติถึงเกือบเท่าตัว ยืนยันว่าปลาช่อนที่วางขายในตลาดโรงเกลือที่ผ่านมา ไม่ได้มาจากทะเลสาบโตนเลสาบของกัมพูชาอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นปลาที่นำเข้าจากเวียดนามทั้งหมด เนื่องจากปลาช่อนจากกัมพูชามีกลิ่นสาบค่อนข้างแรง ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่นิยมซื้อรับประทาน
ส่วนสถานการณ์การปิดด่านครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้ปลาขาดตลาด แต่ยังส่งผลกระทบต่อผู้ค้ารายย่อยจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนสูงและสินค้าหายาก ขณะที่ผู้บริโภคเองก็ต้องซื้อปลาในราคาที่แพงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน.