ชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตัดใจขายวัว-ควาย แม้ราคาจะตก หลังขาดรายได้มานาน และหวั่นเกิดการยิงปะทะขึ้นอีกครั้ง พร้อมยอมรับไม่เชื่อใจกัมพูชา
ความเคลื่อนไหวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดนัดซื้อขายโค-กระบือ ที่อยู่ในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่าตลาดแห่งนี้จะเปิดตลาดเพียงอาทิตย์ละครั้ง และตลาดแห่งนี้เคยปิดตัวลงช่วงเหตุการณ์การยิงปะทะเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยเพิ่งมาเปิดตลาดนัดนี้ได้ไม่นาน ซึ่งบรรยากาศที่ตลาดพบว่ามีพ่อค้า แม่ค้า นำโค-กระบือ มาซื้อขายกันคึกคัก
จากการสอบถาม นายสุบรรณ พิมพ์สอน อายุ 66 ปี พ่อค้าซื้อขายวัว เปิดเผยว่า ที่ตลาดแห่งนี้ หลังจากตลาดวัว-ควายแห่งนี้หยุดไปในช่วงไทย-กัมพูชา ยิงปะทะกัน มาวันนี้ได้เปิดขึ้นอีกครั้งทำให้ตลาดคึกคักเป็นพิเศษ แต่ในช่วงนี้ราคาวัวถูกลงมากอาจจะเป็นเพราะคนออกมาแห่ขายวัวควายออกกันเยอะ โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะกลัวจะเกิดสงครามยิงปะทะกันขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 ทำให้วัวควายเริ่มล้นตลาด ราคาวัวควายที่ราคาตกอยู่แล้วยิ่งมาเจอเหตุยิงปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ยิ่งทำให้ราคาตกลงกว่าเดิม
...
ก่อนหน้านี้จะมีพ่อค้าจากประเทศเวียดนาม และประเทศอื่นเข้ามาซื้อวัวควายในไทยบ้างแต่มีน้อย พอเกิดการยิงปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ทำให้พ่อค้าแม่ค้ากลัวความปลอดภัย ทุกวันนี้มีน้อยมากบางวันแทบไม่มีมาเลย ส่วนตัวอยากให้กำลังใจทหารแนวหน้าให้สู้ ๆ ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและปลอดภัยจากภัยอันตราย
ด้าน นายคำพันธ์ พาลัง อายุ 63 ปี พ่อค้าวัว-ควาย อีกราย เปิดเผยว่า หลังจากที่ตลาดปิดในช่วงที่เกิดเหตุปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ทำให้ตนต้องขาดรายได้ไปเกือบ 1 เดือน หลังจากวันนี้ตลาดขายวัว-ควายได้กลับมาเปิดอีกครั้ง ตนก็ได้นำวัวเข้ามาซื้อ-ขายอีกครั้งเพื่อหารายได้ และในช่วงนี้ก็พบว่ามีเกษตรกรเร่งขายวัว-ควายออก เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุยิงปะทะกันขึ้นอีก ถ้าต้องอพยพหนีออกจากพื้นที่สีแดงอีกครั้ง ก็กลัวว่าจะไม่มีใครเลี้ยงดูแลวัวควายหรือสัตว์เลี้ยง บางคนเหลือไว้แค่ไม่กี่ตัว บางคนขายจนหมดก็มี
ช่วงนี้ประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ ที่ติดชายแดนต้องใช้ชีวิตลำบาก เพราะกลัวสถานการณ์ความไม่สงบ บางคนเตรียมอพยพอยู่ตลอดเวลา สิ่งของเครื่องใช้ไม่กล้านำลงจากรถ เกิดสถานการณ์แบบนี้ผู้คนก็ไม่เป็นอันประกอบอาชีพ เศรษฐกิจและรายได้ก็ลดลงเรื่อย ๆ คนที่เคยประกอบอาชีพมารายได้ตอนนี้ก็ไม่มี ต้องขายวัว-ควายหรือสิ่งของที่มีค่าเพื่อเอาเงินไว้ดำรงชีพ ตนอยากให้เหตุการณ์สงบโดยเร็วประชาชนจะได้ใช้ชีวิตได้ปกติและสงบสุข ตนเชื่อว่าคนไทยมีคุณธรรมแต่ประเทศกัมพูชาไม่มีคุณธรรม ถึงตอนนี้ตนยังไม่เชื่อใจกัมพูชา
ในฐานะที่ตนอยู่พื้นที่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเห็นว่าคนประเทศกัมพูชา จะบุกรุกสร้างบ้านเข้ามาเรื่อย ๆ เหมือนหน่อไม้ที่คอยแทงหน่อออกมาทีละยอดจนเป็นเหล่ากองเยอะ ในช่วงที่เกิดสงครามเขมรแดง คนไทยช่วยเหลือคนกัมพูชาให้ที่พักอาศัยในผืนแผ่นดินไทย จะคอยให้ข้าวให้อาหาร คนไทยสงสารคนกัมพูชาแต่คนกัมพูชาก็ไม่สำนึกบุญคุณยังมารุกรานแผ่นดินไทยอีก
...