จันทบุรี จับอีกกว่า 50 ชีวิตชาวกัมพูชาลอบข้ามแดนเข้าไทยมาทางช่องทางธรรมชาติ หลังต้องประสบกับความอดอยากในบ้านเกิด ยอมเสี่ยงชีวิตกลับมาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง เผยแรงงานกัมพูชาให้ข้อมูล หลงเชื่อคำลวงของผู้นำประเทศ วาดฝันสวยงาม กลับบ้านไปจะมีงานให้ทำ มีกินมีใช้ สุดท้ายไม่เป็นอย่างคำโฆษณาชวนเชื่อ
เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (12 สิงหาคม 2568) นาวาเอก ไกรสร โพธิ์ตุน หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 (ร้อยบ้านแหลม) ทำการจับกุมชาวกัมพูชาลักลอบข้ามแดนกลับเข้ามายังประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย โดยอาศัยช่องทางธรรมชาติ พื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน สามารถควบคุมชาวกัมพูชารวมกว่า 50 คน ในกลุ่มนี้ยังมีเด็กทั้งชายหญิง รวมทั้งมีทารกติดมาด้วย
ก่อนเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติการจับกุม แรงงานชาวกัมพูชาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองได้นั้น ชุดปฏิบัติการพิเศษของชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 ได้มีการออกข่าวและทราบว่าจะมีการนำพาแรงงานชาวกัมพูชาลักลอบกลับเข้ามายังประเทศไทยไปส่งให้ผู้ประกอบการภายในพื้นที่ จึงได้มีการวางกำลังตามแนวชายแดนที่คาดว่ากลุ่มของชาวกัมพูชาจะลักลอบข้ามแดนกลับมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 20:00 น. พบเห็นชาวกัมพูชาจำนวนมากทยอยเดินข้ามแดน จากนั้นมีรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้าสีดำ หมายเลขทะเบียน บษ 6693 จันทบุรี ขับเข้ามารับแรงงานพาไปที่บ้านหลังหนึ่ง อยู่ในพื้นที่บ้านคลองบอน ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้พยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและควบคุมแรงงานชาวกัมพูชาไว้ทั้งหมด พร้อมด้วยผู้ว่าจ้างนำพา คือนายสมนึก พัดเล็ก อายุ 49 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวอำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี
โดยตัวของนายสมนึก ทางเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสืบทราบพฤติกรรมในการนำพาแรงงานมานานแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัว ก่อนหน้านี้เคยเข้าจับกุมหลายครั้ง แต่หลักฐานไม่เพียงพอทำให้นายสมนึกสามารถดิ้นรนไปได้ มาจนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจนกระทั่งนายสมนึกพาแรงงานเข้ามาที่บ้านด้วยตนเองจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
...
จากการสอบถามแรงงานชาวกัมพูชากลุ่มนี้ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้เดินทางกลับบ้านไปเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากได้ทราบประกาศคำเชิญชวนของทางรัฐบาลและฮุนเซน ว่าให้กลับบ้านจะมีงานให้ทำ มีเงินใช้ ตนเองจึงเดินทางกลับบ้าน เมื่อกลับไปกลับไม่เป็นอย่างคำโฆษณาชวนเชื่อ ไม่มีงานและไม่มีเงินกินจึงกลัวอดตายพยายามหาวิธีที่จะกลับเข้ามายังประเทศไทยเหมือนเดิม
หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการบันทึกข้อมูลทำเอกสารแล้วจึงทำการคัดแยก ชาวกัมพูชาเพศชายจะนำไปฝากขังไว้ สภ.โป่งน้ำร้อน ส่วนชาวกัมพูชาที่เป็นเพศหญิง เด็ก จะนำไปไว้โรงพักใกล้เคียงกับจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมก่อน เพื่อรอผลักดันในวันพรุ่งนี้เช้าต่อไป
นาวาเอก ไกรสร โพธิ์ตุน หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการแกะรอย สืบสวนพฤติกรรม จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ โดยแรงงานกลุ่มนี้ให้ข้อมูลว่าเดินทางกลับบ้านตามคำโฆษณาชวนเชื่อ สุดท้ายไม่มีกินกลัวอดตายจึงหาวิธีเดินทางกลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง
ตอนนี้อยากฝากถึงชาวไทยที่จะทำอาชีพนำพาแรงงานเข้าประเทศ ว่าอย่าทำเนื่องจากขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ขอให้รักประเทศไทย
ด้านนายสมนึก พัดเล็ก ชายชาวไทยผู้นำพา กล่าวอ้างว่า ตนเองเพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยมีเถ้าแก่เจ้าของสวนเป็นคนว่าจ้างให้ไปรับ โดยได้ค่าจ้างเป็นรายหัว หัวละพันกว่าบาท นายสมนึกยังอ้างอีกว่า ตนเองมีแรงงานที่รับมาเพียง 8-9 คน ส่วนนอกนั้นเป็นของเจ้าอื่น ซึ่งมีเพื่อนร่วมอาชีพที่ทำแบบนี้อีกหลายคน