รู้จัก พื้นที่รอยต่อ ช่องโดนเอาว์-กฤษณา (บ้านโดนเอาว์–บ้านกฤษณา) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ฐานยุทธศาสตร์สำคัญชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณภูมะเขือ หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดครั้งล่าสุด ผงะพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น-ลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด-ลูกจรวด RPG จำนวนมาก


จากกรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนเส้นทางพื้นที่รอยต่อ ช่องโดนเอาว์-กฤษณา (บริเวณภูมะเขือ) เหยียบกับระเบิดเจ็บ 3 นาย

ต่อมา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 ส.ค. 68 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์–บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่

จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด

พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่ง พลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง

พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ ตำแหน่ง พลปืนเล็ก ได้รับแรงอัดและบาดเจ็บบริเวณแก้วหู

รายงานข่าวแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวถือเป็นแนวชายแดนสำคัญทางยุทธศาสตร์ โดยหากหันหน้าไปทางกัมพูชา จะพบแนวพื้นที่เรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่ ปราสาทพระวิหาร – ช่องคานม้า – ภูมะเขือ – ช่องโดนเอาว์ ซึ่งยังคงมีความตึงเครียด อีกทั้งมีการพบทหารกัมพูชายังตรึงกำลังตามแนวชายแดนไทยและมีความเคลื่อนไหวเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมมีการบินโดรนในบางพื้นที่ เข้าข่ายเป็นการยั่วยุ

นอกจากนี้ พล.ต.วินธัย ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 68 หน่วยทหารช่างได้เข้าดำเนินการทำพื้นที่ให้ปลอดภัยและเสริมความมั่นคงในบริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเคยเป็นที่มั่นของฝ่ายทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบพบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น แบ่งเป็น

...




• จำนวน 16 ทุ่น บรรจุอยู่ในกระสอบ ยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด

• จำนวน 2 ทุ่น วางแบบเร่งด่วนโดยไม่ฝังกลบ บริเวณรอบบ่อน้ำ อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด หน่วยทหารช่างได้ดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้ง 18 ทุ่นเรียบร้อยแล้ว





และยังพบลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด และลูกจรวด RPG จำนวนมาก ซึ่งจากหลักฐานดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายทหารกัมพูชาอย่างชัดเจน