เมื่อ AI ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ สู่ยุคของ "Agentic AI" หรือ AI ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และลงมือทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอิสระ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จึงไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่คือการพลิกโฉมวิถีการทำงานและธุรกิจแบบองค์รวมทั้งหมด

กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม จึงได้ก้าวเข้าสู่สนามนี้อย่างเต็มตัว พร้อมเผยเส้นทางและบทเรียนสำคัญในการนำ Agentic AI มาใช้จริง เพื่อยกระดับองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า จากเดิมที่ AI ทำงานตามกฎเกณฑ์ และเรียนรู้จากข้อมูล (Deep Learning) จนกระทั่งเข้าสู่ยุคของ Gen AI ที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาได้ ปัจจุบันโลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ AI agent ซึ่งเป็น AI ที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ซับซ้อนได้ และเมื่อเหล่า AI agent ทำงานร่วมกัน จะกลายเป็นระบบที่เรียกว่า Agentic AI System ซึ่งมีความสามารถในการทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างอัตโนมัติ

ทั้งนี้จากข้อมูลของ Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำ ได้มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2571 มากกว่า 15% ของการตัดสินใจในแต่ละวันขององค์กรจะถูกดำเนินการโดยระบบ Agentic AI อย่างเป็นอิสระ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ในอนาคตอันใกล้

ดังนั้น การนำ AI มาใช้ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ล่าสุด KBTG จึงได้ขับเคลื่อนแผนงานภายใต้แนวคิด Human-First x AI-First Transformation ที่ผสานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI เข้ากับความเชี่ยวชาญของบุคลากร เพื่อการพัฒนาและส่งมอบบริการทางการเงินที่ทันสมัย ตอบสนองธนาคารและภาคธุรกิจ ที่ไม่ใช่การมาแทนที่คน แต่ใช้เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้พนักงานผลิตผลงานได้มากขึ้น ลดเวลาในการทำงานซ้ำซ้อน และทุ่มเทเวลากับงานที่มีคุณค่า ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมา โดยมีกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อน คือ Agentic AI หรือโมเดล AI ที่สามารถประสานงานและสั่งการ AI ตัวอื่น ๆ เพื่อการทำงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น

พร้อมกับเดินหน้ายกระดับการใช้ Agentic AI ในกระบวนพัฒนาซอฟต์แวร์และนวัตกรรมใหม่เพื่อส่งเสริมการบริการและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ประกาศแผนการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-Infused Tech Powerhouse ระดับภูมิภาค ด้วยกลยุทธ์ AI 5+1 ฝัง AI ในทุกจุดการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพด้านเทคโนโลยีขั้นสูงสุด พร้อมเปิดพื้นที่ให้พนักงานสร้าง Agent ด้วยตนเองผ่าน AI Playground ภายใต้การทดสอบควบคุมคุณภาพ

กลยุทธ์ AI 5+1 ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

1. การสร้างและประยุกต์ใช้ AI เพื่อส่งเสริมธุรกิจธนาคาร (AI for Banking) ซึ่ง KBTG มีข้อได้เปรียบในเรื่องนี้เนื่องจากมีข้อมูลธุรกรรมทางการเงินในประเทศไทยถึง 35% ซึ่งถูกจัดการและดูแลอย่างดี

2. การพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ในกระบวนการด้านไอที (AI for IT Delivery & Operations)

3. การพัฒนาแพลตฟอร์ม Data และ AI เพื่อรองรับการสร้าง AI Use Case ใหม่ ๆ (AI & Data Platform) การเลือกใช้ AI Model ที่เหมาะสมกับ Use Case เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก AI แต่ละตัวมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน

4. การกำกับดูแลการใช้งาน AI (Governance & Ecosystem) เนื่องจาก Agentic AI สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง การมีระบบควบคุมและกำกับดูแลจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

5. การพัฒนา AI Products เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ (AI Tech Business) การนำ AI มาใช้จำเป็นต้องมีการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกัน ไม่ใช่แค่การยัด AI เข้าไปในกระบวนการเดิม

และ +1 คือ การยกระดับพนักงานขององค์กรให้มีความรู้และความพร้อมด้าน AI (People) ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์หลักทั้งหมด เพราะแม้ว่า AI จะมีความสามารถสูง แต่ยังจำเป็นต้องมี "Human in the loop" หรือมนุษย์ที่คอยกำกับดูแล ตรวจสอบ และตัดสินใจในขั้นตอนที่สำคัญอยู่เสมอ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นภายใต้กลยุทธ์ทั้งหมดจะต้องอาศัย "ผู้นำ" ในการตัดสินใจด้วยเช่นกัน

การพลิกโฉมสู่ AI First Transformation จาก KBTG 2.0 สู่ KBTG 3.0

"KBTG ได้เริ่มต้นการทำ Transformation อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2562-2566 ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานด้านเทคโนโลยีและข้อมูลให้แข็งแกร่ง จนสามารถเพิ่ม Productivity ได้อย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2566 KBTG ได้เข้าสู่เฟสของการทำ Human First AI First Transformation ซึ่งเป็นแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นอันดับแรก โดยใช้ AI เป็นเครื่องมือในการยกระดับศักยภาพของพนักงานและสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า" เรืองโรจน์ กล่าว

ปัจจุบัน KBTG ได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย ทั้งจาก The Asian Banker, Global Finance และ Fast Company ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภูมิภาค

ทั้งนี้ปัจจุบัน ทีม AI Engineer ของ KBTG อยู่ในระหว่างการวางรากฐานให้ AI Agent สามารถรองรับงานภายในองค์กรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบอัตโนมัติครบวงจร (End-to-end) และกระบวนการดำเนินงานของระบบหลังบ้าน (Back-office Operations)

สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้ KBTG จะมุ่งเน้นไปที่ 4 เป้าหมายสำคัญ คือ

1. การทรานส์ฟอร์มฝ่ายธุรกิจธนาคารและปฏิบัติการด้วย AI โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) และใช้เทคโนโลยีช่วยสร้างผลตอบแทนให้ได้มากยิ่งขึ้น

2. การทรานส์ฟอร์มกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำด้วย Agentic AI ที่พัฒนาขึ้นโดย KBTG เอง

3. การพัฒนาและขยายผล AI Agent เฉพาะทางสำหรับชนิดงานที่ต่างกัน เพื่อตอบโจทย์อย่างตรงจุด

4. การสร้างความเข้าใจและส่งเสริมให้พนักงานประยุกต์ใช้ AI ในการทำงาน เพื่อขับเคลื่อน KBTG สู่การเป็น AI-Infused Organization ในยุค Agentic AI อย่างแท้จริง สะท้อนการเป็นองค์กรเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำระดับประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เรืองโรจน์ กล่าวเสริมว่า KBTG กำลังปรับเปลี่ยนแนวทางการส่งมอบงานด้าน IT โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้ Agentic AI Augmentation ซึ่งหมายถึงการนำ AI Agents มาเสริมประสิทธิภาพการทำงาน โดยสามารถแบ่งภาพรวมการใช้ Agentic AI ที่ KBTG ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. Software Delivery

เป็นการเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิม (traditional SDLC) ให้เป็นกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven SDLC) แบบครบวงจร (End-to-End) ด้วยการใช้ in-house agents เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติ (automation) และเสริมประสิทธิภาพในแต่ละบทบาทภายใน SDLC

2. Tech & Back-Office Operations:

กรณีการใช้งาน Agentic AI เพื่อเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพภายในองค์กร ซึ่งรวมถึงในด้านต่างๆ เช่น ทรัพยากรบุคคล (HR), การสนับสนุนด้าน IT, และความปลอดภัยทางไซเบอร์

จิรัฏฐ์ ศรีสวัสดิ์ Assistant Managing Director - Software Development Excellence กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวเพิ่มเติมว่า KBTG ยังคงยึดมั่นในการนำ AI มาช่วยยกระดับการทำงานของมนุษย์ โดยไม่เข้ามาแทนที่ ผ่านแนวคิด Augmented และ Embedded ที่เน้นในการฝัง AI เข้าไปในกระบวนการทำงาน และให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มพัฒนา AI Agent

เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การพัฒนา AthenaMind แพลตฟอร์มสร้างแชทบอทเฉพาะทาง เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับองค์ความรู้ต่าง ๆ เช่น HR, PDPA, Vendor Management และ Cybersecurity

ซึ่งในปี 2568 ได้มีการขยายการใช้งานให้กับ Software Engineer และ Tester มากกว่า 600 คนในองค์กร พบว่าช่วยเพิ่ม Productivity ในบาง Use Case ได้มากกว่า 45% และมี Code ที่เขียนด้วย AI และถูกรีวิวโดย Engineers แล้ว รวมเป็นจำนวนกว่า 10 ล้านบรรทัด คิดเป็น 10% ของ Code ที่พัฒนาทั้งหมด และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ทำให้ที่ผ่านมาสามารถลดต้นทุนได้มากถึง 32 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2568)

"ขณะนี้องค์กรได้เริ่มนำ Coding Agent มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานบางส่วนของ Software Engineer ล่าสุด จากการทดลองใช้กับ MAKE by KBank พบว่าสามารถลดระยะเวลางานพัฒนาบางส่วนจาก 1 วัน เหลือเพียง 15 นาที"

เมสินี นาคมณี Deputy Managing Director - Software Quality Management กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวเสริมว่า KBTG ให้ความสำคัญกับเรื่อง "คุณภาพ" เป็นอันดับแรก โดยมุ่งมั่นที่จะเป็น "Innovator" ไม่ใช่แค่ "Front Runner" ซึ่งหมายถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่แตกต่างอย่างแท้จริง จึงได้มีการผสาน AI เข้ามาในกระบวนการทดสอบคุณภาพซอฟต์แวร์

โดยเริ่มจากการพัฒนา "ไฉไล" (Chai LAI) AI Testing Agent ตัวแรกที่ KBTG พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในงานทดสอบต่าง ๆ ทั้งการบริหารจัดการการทดสอบ การทำ Test Automation หรือการจัดการข้อมูลในการทดสอบ รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของระบบ โดยปัจจุบัน KBTG มีการใช้ AI ช่วยเขียนสคริปต์ทดสอบระบบแล้วกว่า 500 สคริปต์

ซึ่งยังช่วยจัดการ Data ที่มีปริมาณมหาศาล เพื่อให้การทดสอบครอบคลุมและใกล้เคียงกับข้อมูลผู้ใช้งานจริง โดยยังคงรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าไว้

นอกจากการพัฒนา AI เพื่อยกระดับมาตรฐานการทดสอบซอฟต์แวร์ (AI for Testing) แล้ว KBTG ยังมีการกำหนดเฟรมเวิร์คสำหรับทำการทดสอบ เพื่อให้มั่นใจว่า AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาภายใน KBTG จะมีคุณภาพและมาตรฐานที่ดี (Testing for AI) โดยเฟรมเวิร์ค "ใส่ใจ" (Sai JAI) จะทำหน้าที่ตรวจสอบพฤติกรรมของ AI และกำกับให้การพัฒนาเป็นไปตามนโยบายสากล

เพื่อให้มั่นใจว่า AI เหล่านั้นมีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยแนวคิดของ ใส่ใจ มาจากความรับผิดชอบของ KBTG ที่มีต่อผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคน ทำให้ AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นต้องได้รับการควบคุมความเสี่ยง และมีธรรมาภิบาลที่เหมาะสมก่อนนำไปใช้งานจริง

วรรณลภย์ วิสิฐธรรมคุณ Assistant Managing Director - Intelligence Engineering and Data Technology กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวปิดท้ายว่า KBTG ไม่ได้มอง AI เป็นแค่เทคโนโลยี แต่เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจและเพิ่ม Productivity ในการทำงาน การนำ AI มาใช้ในองค์กรของ KBTG ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนำเทคโนโลยีมาใช้งานเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการทำงานเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุด และสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม

จึงมีการพัฒนาหลากหลายองค์ประกอบเพื่อขับเคลื่อนขีดความสามารถด้าน Agentic AI ทั้งการสร้างแพลตฟอร์ม AI ขึ้นเอง สถาปัตยกรรมแบบแยกส่วน (Modular Architecture) ซึ่งช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเชื่อมต่อได้กับ Technology และ Service Provider หลายเจ้า ลดการพึ่งพาเพียงเจ้าใดเจ้าหนึ่ง และ Large Language Model Gateway (LLM Gateway) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเลือกใช้งานโมเดลที่เหมาะสมกับปัญหาธุรกิจในรูปแบบต่างๆ เช่น หากพบว่าโมเดล AI ของ Google (Gemini) มีความสามารถที่โดดเด่นกว่าในบางด้าน ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้ Gemini ได้ทันที โดยไม่มีข้อผูกมัดกับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง หรือการพึ่งพาผู้ขายเพียงเจ้าเดียว

การวัดผลที่ครอบคลุม

เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนใน AI คุ้มค่าและเกิดประโยชน์จริง KBTG จึงมีการวัดผลการดำเนินงานที่ครอบคลุมใน 3 มิติหลัก ได้แก่

1.Business Outcome ประเมินว่าการนำ AI มาใช้สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรกได้หรือไม่

2.Productivity วัดผลว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดภาระงานของพนักงานภายในองค์กรได้จริงหรือไม่

3.Cost-effectiveness วิเคราะห์ความคุ้มค่าของการลงทุน โดยเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้กับต้นทุนที่ใช้ไป หากพบว่าผลตอบแทนยังไม่คุ้มค่า องค์กรจะพิจารณาปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน AI ต่อไป

และล่าสุด KBTG เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถสร้าง AI Agent ขึ้นเองจากโจทย์และไอเดียที่แต่ละคนมี จึงเกิดเป็น AI and Data Playground ที่มาพร้อมกับสารพัดเครื่องมือให้พนักงานสามารถสร้าง AI Agent เองได้อย่างรวดเร็ว มีมาตรฐาน และปลอดภัย อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่น และผลักดัน AI จากแนวคิดสู่ผลลัพธ์จริง

ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ KBTG สามารถพัฒนาและขยายระบบ AI ที่มีความแม่นยำ รวดเร็ว และยืดหยุ่น พร้อมตอบสนองความต้องการของทางด้านธุรกิจของธนาคารกสิกรไทยและ KBTG ผ่านนวัตกรรมใหม่ ๆ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ KBTG ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการก้าวสู่ยุค Agentic AI ไม่ได้หมายถึงการนำ AI มาแทนที่มนุษย์ แต่เป็นการผนึกกำลังกันระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยกับศักยภาพของบุคลากรเป็นหัวใจสำคัญ โดยผ่านกลยุทธ์ AI 5+1 และแนวคิด Human-First x AI-First Transformation องค์กรจึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างก้าวกระโดด พร้อมกับเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ด้วยตนเอง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทั้งหมดนี้ก็เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็น AI-Infused Tech Powerhouse อย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค

#KBTG #AgentAI #HumanFirstAIFirst