ปราจีนบุรี ยังพบโดรนไม่ทราบฝ่ายจำนวนหลายลำ บินต่อเนื่อง 3 คืนติดต่อกัน ใกล้กับพื้นที่ความมั่นคงทางทหาร มีลักษณะบินวนสอดแนม เจ้าหน้าที่สนธิกำลังออกติดตามการบินโดรนลึกลับตลอดเวลา แต่ยังไม่สามารถติดตามผู้บังคับโดรนได้แต่อย่างใด
กรณีที่มีโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่าย ได้บินในพื้นที่ ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จำนวนหลายลำ ใกล้กับพื้นที่ความมั่นคงทางทหาร มีลักษณะบินวนสอดแนม บางช่วงก็ปิดไฟในตัวโดรนเพื่อป้องกันการมองเห็น มีชาวบ้านในพื้นที่พบเห็นว่ามีการบินโดรนมาแล้วจำนวน 3 คืนติดต่อกัน และเจ้าหน้าที่ทางทหาร-ตำรวจ-เจ้าหน้าที่ปกครอง ได้ติดตามสืบสวนจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่ทราบที่มาที่ไปแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ที่จังหวัดปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (4 สิงหาคม 2568) ผู้สื่อข่าวติดตามสถานการณ์การบินโดรน ที่บริเวณมหาวิทยาลัยในตำบลเนินหอม พบว่ามีโดรนบินมาในพื้นที่ ในรอบแรกมี 2 ลำ ที่ทยอยบินโดรนมาติด ๆ กัน จากนั้นไม่นานก็พบโดรนบินมาในพื้นที่อีก 4 ลำติดต่อกัน โดยที่โดรนจะบินมาในทิศทางและแนวเดียวกันทั้งสิ้น จะบินมาจากทิศตะวันออกผ่านมหาวิทยาลัยเข้าไปในพื้นที่ความมั่นคงของทหาร จำนวน 3 หน่วย
จนถึงช่วงเวลาประมาณ 20.40 น. พบว่ามีโดรนบินมาทางทิศตะวันออกติดต่อกัน จำนวน 8 ลำ และมี 1 ลำ ที่บินต่ำจนชาวบ้านในพื้นที่มองเห็นโดรนได้ชัดเจนที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 1.5 เมตร ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่นำโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพไว้ ซึ่งโดรนลำนี้มีลักษณะ 4 ใบพัด จากการที่มีโดรนลึกลับบินมาในพื้นที่ความมั่นคงอย่างต่อเนื่องประมาณ 12 ลำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน. ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ กส.ทช. ได้ออกติดตามการบินโดรนลึกลับตลอดเวลา แต่ยังไม่สามารถติดตามผู้บังคับโดรนได้แต่อย่างใด
ในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.ผ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า จังหวัดปราจีนบุรีได้มีประกาศห้ามการบินโดรนโดยเด็ดขาด ห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานไม่มีนักบิน หรือโดรน ควบคุมการบินอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก ทุกวัตถุประสงค์ของการใช้งานทุกพื้นที่ โดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.อากาศยาน พ.ศ. 2497
ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ขอประชาสัมพันธ์ กรณีพบเห็นสามารถแจ้งได้ที่ มทบ. 12 โทร 037-475-240-2 หรือ พล.2 รอ. 037-471438 สำนักงานปกครองจังหวัด 030-454-010 และที่ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี 037-480480 ส่วนข้อกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเรื่องของการใช้โดรนของประเทศไทย ก็มีข้อบังคับที่เข้มงวด จุดประสงค์เพื่อความปลอดภัยและการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือความมั่นคงของชาติ
หากท่านใดมีโดรนต้องไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยขึ้นทะเบียนกับ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และ กส.ทช. หากไม่ขึ้นทะเบียนมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการบินโดรนในพื้นที่หรือพื้นที่ที่เป็นอันตรายบริเวณใกล้สนามบิน บริเวณที่มีการจราจรทางอากาศในสนามบิน พื้นที่หน่วยราชการ สถานที่สำคัญ เช่น พระบรมมหาราชฐานทัพ ค่ายทหารหรือสถานที่ราชการต่าง ๆ เช่น เรือนจำ โรงไฟฟ้า หรือพื้นที่ที่มีประกาศตามที่เราประกาศไว้ จังหวัดปราจีนบุรีเป็นพื้นที่ห้ามบินทั้งจังหวัด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดถึง 200,000 บาท หรือถูกยึดโดรน หากเป็นชาวต่างชาติ อาจจะถูกเนรเทศกลับประเทศ ต้องดูความผิดว่ามีเจตนา หรือพฤติกรรมร้ายแรง เช่น เป็นโดรนสอดแนม การจารกรรม มีการดัดแปลงอุปกรณ์อาจมีโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิตตาม ป.วิอาญาและ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อช่วงค่ำเวลาประมาณ 19.00 น. มีชาวบ้านหลายพื้นที่ในรัศมีประมาณ 20 กิโลเมตรจากตัวเมืองปราจีนบุรี แจ้งว่าเห็นโดรนบินอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งเป็นภาพที่พบต่อเนื่องตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวสามารถบันทึกภาพโดรนขนาดใหญ่ไว้ได้ โดยโดรนแต่ละลำบินห่างกันราว 3-5 นาที บินในลักษณะเป็นเส้นตรง และบินไป-มาระหว่างอำเภอประจันตคามถึงอำเภอบ้านสร้างประมาณ 3 รอบ ตั้งแต่เวลา 19.30 น. จนถึงเที่ยงคืน
เบื้องต้นสำนักงาน กสทช. ได้ส่งรถโมบายเข้าตรวจจับสัญญาณควบคุม (Controller) โดยสามารถตรวจจับสัญญาณของตัวโดรนได้ แต่ยังไม่สามารถหาต้นทางของสัญญาณควบคุมได้แน่ชัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าตรวจสอบตลอดทั้งคืน โดยมีการประสานงานกับหน่วยทหารในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในหลายพื้นที่ได้ร้องขอผ่านสื่อว่า หากการบินโดรนในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นการทดสอบหรือปฏิบัติการของหน่วยงานภาครัฐหรือทหาร ก็ขอให้มีการแจ้งประชาชนทราบล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความมั่นใจและลดความตื่นตระหนก เนื่องจากตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา มีประชาชนพบเห็นโดรนบินในน่านฟ้าเขตจังหวัดปราจีนบุรีจำนวนมาก และไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของฝ่ายใด
ทั้งนี้ จังหวัดปราจีนบุรีเป็นพื้นที่ที่มีหน่วยทหารตั้งอยู่หลายแห่ง จึงสร้างความกังวลต่อความมั่นคงและความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงยังคงเร่งตรวจสอบหาที่มาและวัตถุประสงค์ของการบินโดรนต่อไปอย่างใกล้ชิด
...