"เขื่อนสิริกิติ์" แจ้งปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. - 10 ส.ค. 68 เตือนจังหวัดพื้นที่ท้ายน้ำ เตรียมรับผลกระทบ

เวลา 13.00 น. วันที่ 31 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องในจังหวัดน่าน ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้น และไหลเข้าสู่เขื่อนสิริกิติ์จำนวนมาก จึงต้องมีการระบายน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น และมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการน้ำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ในพื้นที่ท้ายน้ำโดยเฉพาะใน จ.นครสวรรค์, ชัยนาท, อ่างทอง, สิงห์บุรี, พระนครศรีอยุธยา, และปทุมธานี

ตามที่ประชุมของคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 มีมติให้มีการปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำทั้งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เป็นไปอย่างเหมาะสม เห็นควรให้มีการกำหนดปรับแผนระบายน้ำ 4 เขื่อนลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยมีการปรับแผนระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ดังนี้ 

30 ก.ค. 68 จากเดิมระบายน้ำ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้านลูกบาศก์เมตร

...

31 ก.ค. 68 จากเดิมระบายน้ำ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 26 ล้านลูกบาศก์เมตร

1 ส.ค. 68 จากเดิมระบายน้ำ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 34 ล้านลูกบาศก์เมตร

2 ส.ค. 68 จากเดิมระบายน้ำ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร

3 ส.ค. 68 จากเดิมระบายน้ำ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร

และตั้งแต่วันที่ 4 - 10 ส.ค. 68 คงการระบายน้ำที่ 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

โดยวันนี้ มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 7,673 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 80.69 ของความจุอ่าง ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,836.37 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19.31

สำหรับการปรับเพิ่มการระบายน้ำครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างปริมาณน้ำในภาพรวม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนทั้งเหนือน้ำและท้ายน้ำเป็นหลัก หากสถานการณ์น้ำเปลี่ยนไปเขื่อนสิริกิติ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ขณะนั้น เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สามารถสอบถามได้ที่ โทร. 0-5546-1157 หรือทางเว็บไซต์เขื่อนสิริกิติ์ https://skdam.egat.co.th และ Facebook กฟผ.เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง