บุรีรัมย์ ชาวบ้านยอมทิ้งบ้านอพยพอย่างต่อเนื่อง หลังลูกกระสุนปืนใหญ่จากเขมรมีรัศมีตกไกลขึ้น พบมีโจรงัดบ้านเรือนชาวบ้านแล้ว 2 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่เพิ่มกำลังลาดตระเวนแล้ว ขณะปราสาทเขาพนมรุ้ง ประกาศปิดอุทยานจนกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาจะคลี่คลาย
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ในพื้นที่ ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กลายมาเป็นพื้นที่ใหม่ จากที่เคยเป็นพื้นที่ปลอดภัยของการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา กลายเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย ประชาชนต้องอพยพตามคำสั่งของนายอำเภอ
โดยเฉพาะพื้นที่ ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด ครั้งนั้นเคยเป็นศูนย์อพยพการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา ตอนนี้กลายเป็นพื้นที่เสี่ยง ต้องอพยพออกนอกพื้นที่ทั้งหมดไปแล้ว เนื่องจากรัศมีของปืนใหญ่ไกลขึ้นกว่าเดิม
บรรยากาศทั่วไปยังมีประชาชนขนข้าวของเดินทางไปที่ศูนย์อพยพที่ทางการจัดไว้ให้อย่างต่อเนื่อง ทำให้แต่ละหมู่บ้านต่างเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่คือกำนันผู้ใหญ่บ้านและชุดตำรวจบ้านมาดูแลสถานการณ์ ล่าสุดที่ ต.เขาดินเหนือ อ.บ้านกรวด มีคนร้ายเข้าไปงัดบ้านเรือนชาวบ้านแล้ว 2 หลังคาเรือน
นางสาวเปรมฤทัย สุดโสม อายุ 28 ปี ชาวบ้านโคกสว่าง ต.เขาดิน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ หลานสาวเจ้าของบ้านที่ถูกงัด เล่าว่าตอนนี้ไม่กล้าทิ้งบ้านแล้ว จะต้องแอบมานอนตอนกลางคืน ถึงแม้ทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปจะไม่มีมูลค่าสูง แต่ก็เสียใจที่คนร้ายฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีคนอยู่บ้าน
...
นายบุญมี ลอยสนั่น ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลเขาดินเหนือ กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่มีเพียง 20 คนที่ตระเวนไปตามหมู่บ้านตอนกลางวันและกลางคืน แต่ยังเกิดเหตุเพราะไม่สามารถดูแลให้ทั่วถึงได้ ตอนนี้จึงเพิ่มกำลังเป็น 40 คนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเพจอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งบุรีรัมย์ ได้โพสต์ประกาศว่า "อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งและปราสาทเมืองต่ำขอปิดทำการจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา"