กองบัญชาการกองทัพไทย เผยแพร่บันทึกเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา 25 ก.ค. กัมพูชายังเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อนด้วยอาวุธหนักหลายประเภท ส่งผลสถานการณ์ตึงเครียดอย่างมาก โดยเฉพาะสมรภูมิรบ ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ สุดดุเดือด ทหารราบ รถถัง ปืนใหญ่ ปะทะตลอดแนว

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 กองบัญชาการกองทัพไทย Royal Thai Armed Forces Headquarters ได้เผยแพร่บันทึกเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ตามรายงานจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้เกิดเหตุปะทะอย่างต่อเนื่องตลอดแนวชายแดนในหลายจุดสำคัญ โดยฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เปิดฉากโจมตีก่อนด้วยอาวุธหนักหลายประเภท ส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่มีความตึงเครียดอย่างมาก

สรุปสถานการณ์ในพื้นที่สำคัญ มีดังนี้:

- เวลา 08.30 น. บริเวณช่องบก เกิดการยิงตอบโต้ระหว่างปืนใหญ่ของไทยกับ BM-21 จากฝ่ายกัมพูชา

- ช่องอานม้า กัมพูชาใช้กำลังโจมตีและทำลายอนุสาวรีย์คนขี่ม้ารวมถึงอาคารโดยรอบ

- พื้นที่ชาแต กองกำลังไทยตอบโต้ด้วยทหารราบและรถถังเพื่อยึดพื้นที่กลับคืน

- ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชาใช้รถถังจำนวน 15 คันเป็นฐานยิงโจมตี

- เขาพระวิหาร กองกำลังไทยตรึงกำลังอย่างเข้มแข็ง

- ภูมะเขือ เกิดการเข้าตีและยิงโต้ตอบอย่างต่อเนื่อง

- ช่องจอม มีการสู้รบสลับกันไปมา

- ปราสาทตาควาย กัมพูชาเสริมกำลังพลจำนวนมากเข้าสู่พื้นที่

- ปราสาทตาเมือนธม ฝ่ายไทยวางกำลังป้องกันแน่นหนา ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามเข้าตีหลายระลอก

สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น.

ยอดเพิ่มเติมเฉพาะวันที่ 25 กรกฎาคม 2568

1. พลเรือน บาดเจ็บสาหัส: เพิ่ม 3 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย: เพิ่ม 1 ราย บาดเจ็บปานกลาง: ลดลง 3 ราย (กลับบ้านได้)

2. ทหาร เสียชีวิต: เพิ่ม 5 นาย บาดเจ็บ: เพิ่ม 15 นาย

ยอดสะสมรวมตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน

1. พลเรือน เสียชีวิต: 13 ราย บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย บาดเจ็บปานกลาง: 10 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย

รวมทั้งสิ้น: 46 ราย 2. ทหาร เสียชีวิต: 6 นาย บาดเจ็บ: 29 รวมทั้งสิ้น: 35 นาย

กองทัพไทยขอแสดงความไว้อาลัยและสดุดีวีรกรรมของทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และอธิปไตยของชาติอย่างหาญกล้า

ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้กระทำการที่เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม (War Crimes) อย่างชัดเจน ได้แก่ - การจงใจโจมตีพลเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีสถานะทางทหาร - การทำลายสถานที่สาธารณะ เช่น โรงเรียน อนุสาวรีย์ - การใช้อาวุธหนักแบบไม่เลือกเป้าหมาย - การตั้งฐานยิงในพื้นที่ชุมชนและใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายและธรรมเนียมของสงครามอย่างร้ายแรง และประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกตระหนักถึงการกระทำของ ฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ซึ่งต้องรับผิดชอบในฐานะอาชญากรสงคราม ที่สั่งการและสนับสนุนการรุกรานอย่างไม่ชอบธรรม

...