ศรีสะเกษ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดหนัก ฝ่ายความมั่นคงไทยยืนยัน พบฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หนัก เข้ามาตั้งฐานประจำการ ซึ่งรวมถึงปืนใหญ่ และระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ตรงข้ามด่านช่องสะงำ ส่งผลให้อำเภอภูสิงห์ ประกาศอพยพประชาชนทั้ง 7 ตำบลด่วน พร้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจาก รพ.ภูสิงห์ และปรับโรงพยาบาลเป็น รพ.สนาม
เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ ได้โพสต์ข้อความแจ้งเตือนด่วนถึงประชาชนในพื้นที่อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า “ภูสิงห์ อพยพด่วน ประชาชนในพื้นที่ที่อยู่นอกเหนือจากแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ได้แก่ ตำบลห้วยตึ๊กชู ตำบลละลม ตำบลตะเคียนราม ตำบลห้วยตามอญ และตำบลโคกตาล ให้อพยพไปยังจุดรับรองผู้อพยพ ณ อำเภอปรางค์กู่ โดยมีศูนย์ประสานงานอยู่ที่ว่าการอำเภอปรางค์กู่”
ทั้งนี้ นายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากฝ่ายความมั่นคงว่า ฝ่ายกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หนักเข้ามาตั้งฐานประจำการ ซึ่งรวมถึงปืนใหญ่และระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ที่มีพิสัยยิงไกลครอบคลุมหลายตำบลในฝั่งไทย “เดิมเราเตรียมแผนอพยพไว้เพียง 4 ตำบล แต่เนื่องจากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงและไม่แน่นอน จึงตัดสินใจประกาศอพยพประชาชนทั้ง 7 ตำบลในพื้นที่อำเภอภูสิงห์โดยทันที เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน” นายบัญชาระบุ
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้มีมาตรการรับมือเหตุฉุกเฉิน โดยโรงพยาบาลภูสิงห์ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทั้งหมดออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา และปรับเปลี่ยนพื้นที่โรงพยาบาลให้เป็น “โรงพยาบาลสนาม” โดยให้บริการเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และภาคประชาชน ได้เร่งให้ความช่วยเหลือในการอพยพประชาชน พร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงในพื้นที่ปลอดภัย และส่งสิ่งของจำเป็น อาหาร ยา และของใช้ส่วนตัวไปยังผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดสถานการณ์บริเวณชายแดนยังอยู่ในภาวะเฝ้าระวังสูงสุด โดยหน่วยความมั่นคงได้เพิ่มกำลังลาดตระเวน และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
...