ผบ.ตร.ส่ง “พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง” บินด่วน พร้อม “พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน” ผบช.ภ.3 ลงพื้นที่สุรินทร์ รับแผน 2 คุมสถานการณ์ยิง BM-21 ดับแล้ว 9 เจ็บกว่า 15 ราย! ไทยยืนยันใช้สันติวิธี – แต่ไม่ยอมให้พลเมืองตกเป็นเป้า

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ยกระดับรุนแรงขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุยิงจรวด BM-21 “คาติวชา” จากฝั่งกัมพูชาเข้าใส่ 7 จุดเสี่ยงในเขตจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย บาดเจ็บกว่า 15 ราย เป็นพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหารชายแดน

ล่าสุด พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งด่วนให้ พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บินด่วนจากกรุงเทพฯ ลงพื้นที่ พร้อมกับ พลตำรวจโท วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เพื่อรับผิดชอบบัญชาการสถานการณ์ภาคสนามด้วยตนเอง โดยประกาศใช้ “แผนเผชิญเหตุขั้นสูงสุด” หรือที่เรียกว่า “แผน 2 ภาค 3” ทันที

...



เหตุโจมตี 7 จุด – ชาวบ้านตาย-ทหารเจ็บกระจาย



จากรายงานในพื้นที่ พบว่าเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นราว 10.40 น. โดยมีการยิงจรวด BM-21 หลายลูกจากฝั่งกัมพูชา ตกลงในชุมชน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบหลักมีทั้งหมด 7 จุดสำคัญ ได้แก่:

• พื้นที่ศูนย์พัฒนาชายแดนไทย–กัมพูชา (ต.แนงมุด, อ.กาบเชิง)
• เขตเทศบาลเสาธงชัย (ใกล้ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven)
• ชุมชนบ้านตาเมียง และแนวช่องอานม้า

เบื้องต้นยืนยันว่า

• มีผู้เสียชีวิตรวม 9 ราย (เป็นพลเรือน 7 ราย ทหาร 2 ราย)
• บาดเจ็บ 15 ราย ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลกาบเชิง, โรงพยาบาลสุรินทร์ และโรงพยาบาลกันทรลักษ์


ผบ.ตร.สั่งการเข้ม – บินด่วนลงพื้นที่ควบคุมเอง



พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 เดินทางถึงสนามบินสุรินทร์ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน โดยได้รับมอบหมายให้บัญชาการการควบคุมสถานการณ์ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 และฝ่ายปกครองจังหวัดสุรินทร์ โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวในที่ประชุมศูนย์บัญชาการว่า “นี่ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ปะทะชายแดนธรรมดา แต่นี่คือการโจมตีประชาชนอย่างชัดเจน ซึ่งตำรวจต้องแสดงบทบาทในการควบคุมสถานการณ์ รักษาความปลอดภัย และเตรียมแผนอพยพหากจำเป็น”

...


ภ.3 ใช้แผนเผชิญเหตุขั้นสูงสุด – จัดกำลังเข้าคุมทุกจุดเสี่ยง



ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ประกาศเข้าสู่ “แผนเผชิญเหตุขั้นสูงสุด (แผน 2)” โดยบูรณาการกับหน่วยทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยข่าวกรองจังหวัดเพื่อคุมพื้นที่และเฝ้าระวังการยกระดับความรุนแรง

พื้นที่เสริมกำลังด่วน ได้แก่:
• พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (โบราณสถานสำคัญ)
• ช่องทางธรรมชาติ ช่องอานม้า – ช่องบก
• แนวปะทะเสี่ยงสูงที่มีทุ่นระเบิดตกค้าง

ตำรวจ ตชด., หน่วย EOD, และหน่วยปฏิบัติการพิเศษจาก ตร.ภ.3 ได้ถูกส่งเข้าสนับสนุนจุดตรวจ จุดสกัด และจัดชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่เร็ว เพื่อป้องกันการยิงซ้ำหรือแทรกซึมจากแนวชายแดน

...


ไทยยืนยันใช้สันติวิธี – แต่ไม่ยอมให้พลเมืองตกเป็นเป้า



พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่า “ประเทศไทยยืนยันไม่ต้องการความขัดแย้ง แต่การยิงถล่มพลเรือนคือพฤติกรรมที่โลกไม่อาจยอมรับ เราจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาชนไทยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยขอให้ฝ่ายกัมพูชาเคารพหลักสากลและหยุดยั้งการกระทำรุนแรงโดยทันที”



สถานการณ์ล่าสุด – ตร. ภ.3 คุมเข้มเต็มพื้นที่ / เตรียมรับการอพยพ

...



ขณะนี้ ตำรวจภูธรภาค 3 รายงานว่าสามารถควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ได้แล้ว แต่ยังมีการเตรียมแผนอพยพสำหรับประชาชนในพื้นที่แนวหน้า โดยเฉพาะในรัศมี 5 กิโลเมตร จากแนวชายแดน พร้อมกับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการส่งผู้บาดเจ็บ


ช่องทางติดต่อด่วน – เปิด 24 ชั่วโมง



หากประชาชนต้องการแจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่:
• สายด่วน 191 หรือ 1599
• สถานีตำรวจท้องที่ / จุดบริการประชาชนใน ตร.ภ.3

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในจังหวัดสุรินทร์–ศรีสะเกษ หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้แนวชายแดน และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด