ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล เปิดผลสำรวจ “ภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาต่อข่าว กรณีพระสงฆ์มีการเสพเมถุนกับสตรี” พบส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาพลักษณ์และความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจน ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าการตรวจสอบที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอ และต้องการเห็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเป็นรูปธรรม รวมถึงการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ผศ. ดร. สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์สำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม 2568 จากจำนวน 1,022 ตัวอย่าง จากกลุ่มตัวอย่างทุกภูมิภาคทั่วประเทศในประเด็น “ภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาต่อข่าว กรณีพระสงฆ์มีการเสพเมถุนกับสตรี” ต่อข้อคำถาม
ท่านเคยรับทราบข่าวกรณีพระสงฆ์มีเสพเมถุนกับสตรีหรือไม่ พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดมีประสบการณ์รับทราบข่าวสารเกี่ยวกับการเสพเมถุนกับสตรีของพระสงฆ์
แหล่งที่ท่านได้รับข่าวสารกรณีพระสงฆ์มีเสพเมถุนกับสตรีพบว่ารับทราบข่าวสารดังกล่าวจากแหล่งข่าวโซเชียลมีเดีย ร้อยละ 92.30 โทรทัศน์ ร้อยละ 69.20 คนใกล้ตัว ร้อยละ 30.80 หนังสือพิมพ์ ร้อยละ 7.70 และวิทยุ ร้อยละ 2.50
ข่าวการกระทำความผิดของพระสงฆ์ด้วยการเสพเมถุนกับสตรี ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาเสื่อมลง พบว่าเห็นว่าส่งผลต่อภาพลักษณ์พระพุทธศาสนา ร้อยละ 96.30 ไม่ส่งผล ร้อยละ 2.50 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 1.20
จากการกระทำความผิดของพระสงฆ์ด้วยการเสพเมถุนกับสตรี ท่านยังคงศรัทธาในพระพุทธศาสนาเช่นเดิมหรือไม่ พบว่าศรัทธาลดลง ร้อยละ 53.80 ศรัทธาเหมือนเดิม ร้อยละ 38.50 และไม่ศรัทธา ร้อยละ 7.70
ท่านเห็นว่าความเข้มงวดในการตรวจสอบพฤติกรรมของพระสงฆ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเช่นไร พบว่าเห็นว่าหย่อนยานเกินไป ร้อยละ 92.30 เข้มงวดดีแล้ว ร้อยละ 6.20 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 1.50
ท่านเห็นว่าพระสงฆ์ที่มีการกระทำความผิดด้วยการเสพเมถุนกับสตรี ควรได้รับการดำเนินการอย่างไร
ควรแก้ไขกฎหมายให้ผู้กระทำความผิดย่อมได้รับโทษตามกฎหมาย ร้อยละ 46.20 ขาดจากความเป็นภิกษุและตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด ร้อยละ 30.80 สึกจากความเป็นสงฆ์ยึดทรัพย์และดำเนินคดีอาญา ร้อยละ 15.40 ขาดจากความเป็นภิกษุทันที ร้อยละ 7.10 และไม่ต้องได้รับโทษใด ๆ ร้อยละ 0.05
ท่านเห็นว่าสีกาหรือผู้มีส่วนร่วมในกรณีดังกล่าวควรได้รับบทลงโทษหรือไม่ พบว่าเห็นว่าควรดำเนินคดีแพ่งและอาญา ร้อยละ 92.3 และควรดำเนินคดีแพ่งเรียกทรัพย์คืนให้พระพุทธศาสนา ร้อยละ 7.70 ไม่มีผู้ตอบว่าไม่ต้องได้รับโทษ
ท่านเห็นว่าควรมีการปรับแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ เพื่อเพิ่มขอบเขตและบทลงโทษกับพระสงฆ์ที่กระทำความผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ พบว่าเห็นว่าควรแก้ไข ร้อยละ 96.30 ไม่ควร ร้อยละ 2.20 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 1.50 ผศ.ดร.สานิตกล่าว
...