เรื่องแรกใน “ชวนม่วนชื่น 2” (อักษรสัมพันธ์ พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน ครั้งที่ 2 หนึ่งหมื่นเล่ม พ.ศ.2558) พระอาจารย์พรหมตั้งชื่อเรื่องว่า ภาชนะใส่ของ และสิ่งที่อยู่ในภาชนะ
ครั้งหนึ่ง ก็ครั้งที่มีกรณีธรรมกาย ก็คงหลังผมอ่านแล้ว คุณอ๊อด (สุภชัย วีระภุชงค์) ขอแรงไปนั่งโต๊ะคุยกับนักกฎหมายมือต้นๆของรัฐบาล นัยว่ารับคำสั่งให้หากระบวนการชำระสะสางพระศาสนา (ยืนยัน ผมฟังมาอย่างนั้นจริงๆ)
กระบวนการแตกหน่อขยายกอของธรรมกาย ในสายตาเด็กวัดเก่ารุ่นผม...ธรรมดาๆ พุทธศาสนาไม่ได้เลวร้าย...ถึงขั้นเปรียบเรือชนหินจนอับปาง จนต้องต่อเรือลำใหม่
ผมว่าจะไปกันใหญ่ จึงขอเล่าอีกครั้ง ครั้งนี้ใช้ทุกถ้อยคำสำนวนของพระอาจารย์พรหมล้วนๆ
นักข่าวท้องถิ่น (เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย) คนหนึ่ง โทรศัพท์มาหาอาตมา ถามว่า “ท่านอาจารย์ครับ ท่านอาจารย์จะทำอย่างไร ถ้ามีคนโยนหนังสือพระไตรปิฎกลงโถชักโครก แล้วกดน้ำราดลงไป”
อาตมาตอบอย่างไม่ลังเล “สิ่งแรกที่จะทำ ก็คือเรียกช่างประปา”
เมื่อนักข่าวคนนั้นหยุดหัวเราะ เขาพูดเปิดอก “เป็นคำตอบที่มีเหตุผลที่สุด ที่เขาเคยได้ยิน”
อาตมาอธิบายให้เขาฟังต่อไป อาจจะมีคนมาทำลายองค์พระพุทธรูปเสียหายมากมาย เผาทำลายวัดอีกหลายแห่ง หรือฆ่าพระสงฆ์และภิกษุณีเป็นจำนวนมาก
แม้คนพวกนั้นจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมา แต่อาตมาจะไม่ปล่อยให้เขาทำลายพระศาสนา พวกเขาไม่มีทางจะทำลาย ธรรมะ คือการให้อภัย ความสงบ และความเมตตา กรุณาอย่างแน่นอน
หนังสือพระไตรปิฎก พระพุทธรูป วัด หรือแม้แต่พระสงฆ์ ไม่ใช่เนื้อหาสาระที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา เป็นเพียง “ภาชนะใส่ของ”
ธรรมะที่เราได้ศึกษาจากหนังสือพระไตรปิฎก สิ่งที่องค์พระพุทธรูปเป็นตัวแทน สิ่งต่างๆที่พระสงฆ์ควรจะยืดถือปฏิบัติ สิ่งเหล่านี้ต่างหาก ที่เป็น “สิ่งที่อยู่ในภาชนะ”
...
เมื่อเราได้รู้แจ้งถึงความแตกต่างระหว่างภาชนะใส่ของ กับสิ่งที่อยู่ในภาชนะแล้ว ถึงแม้ว่าภาชนะใส่ของจะถูกทำลายไป
แต่เราก็ยังคงเก็บรักษาสิ่งที่อยู่ในภาชนะไว้ได้
เราสามารถพิมพ์หนังสือพระไตรปิฎก สร้างวัดสร้างพระพุทธรูป และแม้แต่อบรมสั่งสอนพระสงฆ์หรือภิกษุณีขึ้นมาใหม่ได้อีกมากมาย
พระอาจารย์พรหมทิ้งท้ายเรื่องนี้...แต่เมื่อใดที่เราไม่มีความรัก และความเคารพต่อตัวเองและผู้อื่น ใช้แต่ความรุนแรงต่อกัน เมื่อนั้นแหละที่พระพุทธศาสนา ได้ถูกโยนหายลงไปในโถชักโครกจริงๆ
ผมเล่าเรื่องนี้แล้ว ยังมีบทสนทนาต่างๆอีกยืดยาว ตอนจะแยกย้ายจากกัน ผู้ใหญ่ระดับมือต้นๆขององค์กรกฎหมาย...เฉียดมาเบียดกระซิบผม ขอบคุณเรื่องเล่า เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่า จะทำอะไรต่อ
ผมกำลังเผลอคิดว่า เป็นอานิสงส์เรื่องเล่าของพระอาจารย์พรหม แต่ผิดคาด
เพราะต่อมาก็มีตำรวจทหารที่ว่ากันว่าถึงห้าพันคน ปิดล้อมสำนักธรรมกาย...เป็นเหตุให้พระธัมมชโยแสดงปาฏิหาริย์หายตัว จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีใครได้เห็นหน้า
งานมหกรรมนารีพิฆาตคราวนี้ ผมขออานิสงส์ เรื่อง “ของในตะกร้า” อีกสักครั้ง...“ของดีๆ” ในตะกร้าพระพุทธศาสนายังมีอยู่ ถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ ส่วนที่หลุดร่อนไปครั้งนี้ เป็นแค่กระพี้.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม