หญิงวัย 52 ปี ร่ำไห้ ถูกอดีตสามีขู่ฆ่า บุกเผาบ้านกลางดึก ไฟไหม้วอดหมด ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดนักเรียนหลาน ต้องออกมานอนอยู่ริมทาง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 กำนันสาโรจน์ ลายสุวรรณ กำนันตำบลคลองตะเกรา ผู้ใหญ่สงบ พินโยพันธ์ รุดตรวจสอบเพื่อให้กำลังใจบ้านที่ถูกไฟไหม้กลางดึกที่ผ่านมา ของนางสวาสดิ์ เมืองแก้ว อายุ 52 ปี หมู่ที่ 13 บ้านเกาะกระทิง ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา
เมื่อไปถึงพบชาวบ้านนั่งเต็มถนน และภาพที่สุดเศร้า คือ นางสวาสดิ์ เมืองแก้ว หลั่งน้ำตาเล่าด้วยความดีใจที่กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้สื่อข่าวมาเยี่ยมให้กำลังใจ และเสียใจที่อดีตสามีบุกเผาบ้านวอด สงสารหลานไม่มีชุดนักเรียนจะใส่ไปโรงเรียน ถูกเผาไหม้หมดไม่เหลือแม้แต่เสื้อผ้าจะใส่ ไร้ที่นอน ต้องออกมานอนริมทาง
โดยสภาพภายในบ้าน พบว่า ของใช้เสียหายหมด ทีวีเพิ่งซื้อ ตู้เย็น เครื่องเสียง อุปกรณ์งานเชื่อมเหล็ก เสื้อผ้า ไหม้ไม่เหลือ ที่นอนถูกลากมากองเผารวมกับเสื้อผ้า กลางบ้าน จนหลังคาระเบิดทะลุ
...
ผู้สื่อข่าวถามนางสวาสดิ์ ว่ากังวลอะไร เธอตอบทั้งน้ำตา พร้อมหันไปหากำนันสาโรจน์ ลายสุวรรณ และผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า กลัวอดีตสามี คือ นายสุชาติ นามบุตร อายุ 58 ปี จะกลับมาฆ่า เพราะได้ขู่อาฆาตไว้ พร้อมเล่าว่า เมื่อช่วงหัวค่ำของวันพุธที่ 9 กรกฎาคม นายสุชาติ อดีตสามีที่เลิกราไป 2 ปีกว่า เดินบุกเข้ามาในบ้าน ด่าทอตน หาเรื่อง พร้อมพกอาวุธมีดยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ขู่จะฆ่า ตนจึงพาหลานไปขอนอนที่บ้านยาย ห่างไปประมาณ 10 เมตร
ต่อมากลางดึกเข้าสู่วันใหม่ พฤหัสบดี 10 ก.ค. เวลาประมาณ 01.30 น. นายสุชาติ บุกเข้าบ้านพร้อมวางเพลิงเผา ญาติๆ และชาวบ้านต้องรีบออกมาช่วยดับไฟ พร้อมโทรแจ้งตำรวจ สภ.ท่าตะเกียบ นาทีเกิดเหตุ ยายไม่ให้ตนออกมา เพราะนายสุชาติ อดีตสามี เดินถือมีดในอาการเมาสุรา ตะโกนขู่ฆ่า กระทั่งตำรวจสายตรวจบ้านหนองคอก มาถึงควบคุมตัวนายสุชาติไว้ได้ พร้อมนำตัวไปขังที่ สภ.ท่าตะเกียบ ตนต้องกระเตงหลาน มาปูเสื่อนอนริมทางร่วมกับเพื่อนบ้าน ญาติ ๆ ที่มาร่วมดับไฟ ให้กำลังใจต่อกัน
ขณะที่ กำนันสาโรจน์ ลายสุวรรณ กำนันตำบลคลองตะเกรา ประสาน นายอำนวย เกษตรสินธุ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมนำให้การช่วยเหลือ ด้านคดีทางกฎหมาย ทางพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ได้ทำเรื่องส่งตัวนายสุชาติ ไปฝากขังที่เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ด้วยเป็นช่วงวันหยุดยาว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป