เพจ CSI LA เตรียมตั้ง ทนายอั๋นบุรีรัมย์ ฟ้องกลับ “หลวงพ่อมหาน้อย” เจ้าอาวาสวัดดังบุรีรัมย์ที่มีภาพเปลือยหลุด ถูกแฉพฤติกรรมชอบเสพเมถุนแบบชายรักชาย ฐานแจ้งความเท็จ หลังยอมรับภาพหลุดเป็นภาพตัวเองจริงไม่ใช่ AI ยันมีคนส่งภาพมาร้องเรียนเพจจริง พร้อมจี้ให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบเส้นเงินบริจาค อาจเข้าข่ายฟอกเงิน ด้านทนายอั๋น เผยหากหลวงพ่อละกิเลสไม่ได้ ก็ควรสึกเป็นคนธรรมดา มาทำในสิ่งที่อยากทำ เปิดคณะหมอลำ วงดนตรีต่างๆ ตามที่ใจปรารถนา จะได้ไม่ทำศาสนาเสื่อมเสีย
จากกรณีที่เพจดัง CSI LA โพสต์ภาพเปลือยของพระนักเทศน์รูปหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า "หลวงพ่อมหาน้อย: ตอนที่ 1 มีผู้ร้องเรียนเข้ามา (ภาค 2 มาแล้ว) มีภาพหลุดของพระรูปหนึ่ง ที่มีใบหน้าและรูปร่างคล้ายกับ “หลวงพ่อมหาน้อย” พระนักเทศน์ชื่อดังจากจังหวัดบุรีรัมย์ โดยภาพดังกล่าวมีลักษณะส่อไปในทางเชิญชวนชายรักชาย ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดต่อพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพระในภาพคือหลวงพ่อมหาน้อยจริงหรือไม่ เพื่อความโปร่งใส และไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ – สำนักงานพระพุทธศาสนา – เจ้าคณะจังหวัด – สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อปกป้องศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และป้องกันการแอบอ้างหาผลประโยชน์ในคราบผ้าเหลือง #ตรวจสอบก่อนเชื่อ #พระสงฆ์ต้องโปร่งใส #ศรัทธาต้องไม่ถูกหลอก #สำนักพุทธศาสนา #เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์
หลังมีการโพสต์และแชร์ภาพดังกล่าวออกไป หลวงพ่อมหาน้อย ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพระในรูป ก็มอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความที่ สภ.โนนดินแดง เพื่อเอาผิดกับเพจดังกล่าวที่นำรูปไปโพสต์ ทำให้เสียหาย ฐานหมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทราบว่าทางเพจ CSI LA ได้ประสานไปยัง “ทนายอั๋นบุรีรัมย์” เพื่อเตรียมแต่งตั้งเป็นทนายความในการต่อสู้คดีที่ถูกทนายของเจ้าอาวาสแจ้งความ พร้อมทั้งได้ประสานให้ทนายอั๋น ฟ้องกลับเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวด้วย ฐานแจ้งความเท็จ เพราะหลังจากที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวก็ยอมรับว่าภาพที่มีการโพสต์เป็นรูปตัวเองจริง เนื่องจากรอยสักที่แผ่นหลังตรงกัน ไม่ใช่ภาพตัดต่อ
โดยทางเพจยืนยันผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์ว่า มีตัวตนผู้ที่ส่งภาพมาร้องเรียนจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเรื่องความปลอดภัย โดยผู้ร้องได้ให้ข้อมูลว่าเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมชอบจ้างผู้ชายไปมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดวินัยสงฆ์ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสในการใช้เงินบริจาค หรืออาจจะเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย อาทิ มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ แล้วทุบทิ้งสร้างใหม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินบริจาค ทั้งมีการทำคอนเทนต์ ว่าช่วยเหลือญาติโยมที่ยากไร้ แต่บางเคสก็ไม่ได้มีการช่วยเหลือจริง แต่มีการรับบริจาค จึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวด้วย
ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์ ระบุว่า ได้รับการติดต่อจาก เพจ CSI LA ให้ช่วยเป็นทนายความในการต่อสู้คดี กรณีที่ถูกทนายของเจ้าอาวาสวัดดังที่ภาพเปลือยหลุด และมอบหมายให้ประสานกับหน่วยงานภาครัฐ ตรวจสอบเส้นทางการเงินบริจาคของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวด้วย เพราะมีคนให้ข้อมูลว่าเจ้าอาวาสรูปนี้ใช้ผ้าเหลืองหากินกับเงินบริจาค มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้วทุบทิ้ง มีการทำคอนเทนต์จะช่วยเหลือคนนั้นคนนี้ แต่ไม่ได้มีการช่วยเหลือจริง แต่อาจมีพฤติกรรมการฟอกเงินด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวก็จะมีการลงพื้นที่ไปดูข้อเท็จจริงด้วยตัวเองด้วย
ทนายอั๋น ยังบอกอีกว่า ทราบว่าตอนนี้เจ้าอาวาสอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากท่านเดินทางกลับมาถึงวันไหน ก็อยากแนะนำให้ท่านสึกมาในสภาพที่เป็นคนธรรมดา และมาทำในสิ่งที่อยากทำ เช่น เปิดคณะหมอลำ วงดนตรีต่างๆ ตามที่ใจปรารถนาจะดีกว่า โดยเฉพาะหากชอบรสนิยมทางเพศ ซึ่งมันเป็นเรื่องของคนธรรมดา แต่ท่านเป็นพระไม่สามารถกระทำได้ กิเลสมีในมนุษย์ทุกคน แต่หากละซึ่งกิเลสไม่ได้ก็ไม่ควรไปบวชเป็นพระ เพราะจะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย
ส่วนภาพเปลือยที่หลุดออกมา แม้ท่านจะอ้างว่าถ่ายเก็บไว้เอง แต่ในฐานะที่ท่านอยู่ในผ้าเหลือง ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ที่สำคัญภาพนี้ถูกส่งไปร้องทางเพจก็ต้องมีคนส่งไปแน่นอน ส่วนเรื่องเส้นเงินบริจาคก็จะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม พรุ่งนี้ 9 ก.ค.68 ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์จะมีการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากที่เจ้าอาวาสเดินทางกลับจากญี่ปุ่น
...