ตาก ทหารกะเหรี่ยงบุกยึดโรงพักทหารเมียนมาเสียชีวิต 3 นาย เผยเครื่องบิน Y-12 กองทัพเมียนมา ทิ้งระเบิดถล่มชาวบ้านเจ็บ 5 คน นำรักษา รพ.ไทย ด้านกองกำลังนเรศวร นำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 ที่ จ.ตาก ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังเคเอ็นดีโอ และกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ) หรือกลุ่มต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมา กับทหารเมียนมา ที่กองบังคับการยุทธวิธีที่ 1 ค่ายทีตาแหล่ บ้านทีตาแหล่ อ.วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ด้านตรงข้าม บ้านวาเล่ย์เหนือ ม.3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากชายแดนไทยริมแม่น้ำเมยเพียงแค่ 2 กิโลเมตร แม้มีฝนตกโปรยปรายตลอดทั้งวัน แต่ยังคงมีการสู้รบอย่างหนัก โดยทั้ง 2 ฝ่าย ใช้การปฏิบัติทางทหารทั้งทางบกและทางอากาศ
ล่าสุดทหารกะเหรี่ยงบุกเข้าโจมตีและยึด สภ.วาเล่ย์ ที่มีทหารเมียนมาดูแลแทนตำรวจอยู่ ทำให้ทหารเมียนมาเสียชีวิต 3 นาย ส่วนที่เหลือหลบหนีไปรวมตัวกันที่ค่ายทหารเมียนมาลึกจากชายแดนไทย เมียนมา ประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะการใช้เครื่องบิน Y-12 ของกองทัพเมียนมา บินทิ้งระเบิดในพื้นที่รอบค่ายทีตาแหล่ นั้น ทำให้ประชาชนชาวเมียนมาในหมู่บ้านถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 5 คน ชาวบ้านช่วยกันนำผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลพบพระ อ.พบพระ
สรุปผลจากการสู้รบอย่างหนักตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวบ้าน 2 คน ได้รับบาดเจ็บ 10 คน นอกจากนี้ยังมีทหารเคเอ็นยูถูกกับระเบิดสาหัส 2 นาย ระหว่างเข้ายึดสถานีตำรวจ
นอกจากนี้ เสียงปืน ค.120 จากฝ่ายทหารเมียนมายังคงดังกึกก้องเพื่อยิงกดดันขับไล่ฝ่ายกะเหรี่ยงเป็นระยะๆ
...

ขณะที่ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่มีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยฝั่งตรงข้าม อ.พบพระ ระหว่างวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2568 ห่างจากแนวชายแดน 3 กิโลเมตร ไม่ส่งผลกระทบต่อราษฎรไทย และมีความเสียหายต่อทรัพย์สิน แต่มีผู้หนีภัยจากการสู้รบ จำนวน 408 คน เจ้าหน้าที่ได้จัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 จุด ในพื้นที่โกดังของเอกชน และพื้นที่โกดังของสหกรณ์การเกษตร ตำบลวาเล่ย์ อ.พบพระ

ด้านกองกำลังนเรศวร ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย เช่นเดียวกับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด วางกำลังติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน, จัดกำลังพลชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งยิงตามแผนเผชิญเหตุ, ลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันการลุกล้ำอธิปไตยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย พร้อมทั้งสนับสนุนอำเภอพบพระ, กิ่งกาชาดอำเภอพบพระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม และพันเอกณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนในพื้นที่ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก