ปราจีนบุรี ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี บุกวัดตรวจฉี่ จับสึกพระ 3 รูป พร้อมด้วยลูกศิษย์ มั่วสุมเสพยาบ้า-กัญชาคากุฏิ 1 ในผู้ต้องหาบอกหากพ้นโทษออกมา ก็พร้อมที่จะกลับมาบวชอีกครั้ง

เมื่อเวลา 10:00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี พร้อมด้วยปลัดอำเภอกบินทร์บุรี กำนันผู้ใหญ่บ้าน ลงทำการตรวจสอบวัดแห่งหนึ่งหลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีพระสงฆ์และเด็กวัดมั่วสุมเสพยาเสพติด

จากการตรวจสอบบริเวณกุฏิวัดบรรพตเขมาราม หรือวัดเขาแจงแมง ในพื้นที่ตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พบชายลักษณะผมสั้นไม่สวมเสื้อ และหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ภายในกุฏิดังกล่าว จากการตรวจสอบภายในกุฏิพบยาบ้าจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นชายและหญิงรายดังกล่าวยอมรับว่าเป็นแฟนกัน พร้อมทั้งยอมรับว่ายาบ้าที่พบภายในกุฏิเป็นของฝ่ายหญิง ทราบชื่อต่อมา นายพิชัย ฐานศรีมี อายุ 43 ปี (ถูกจับสึกเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ข้อหาเสพยาบ้า) และนางสาวจีวรา ตะโสรัตน์ อายุ 27 ปี (เพิ่งออกจากเรือนจำเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา)

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะพระภิกษุสงฆ์ ทราบชื่อต่อมา คือ นายสุทัศน์ ต้นยวด อายุ 48 ปี (ใส่แว่น) พบว่าจากการตรวจปัสสาวะมีสารเสพติด ซึ่งจากการสอบถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าทางด้านนายสุทัศน์รับว่าได้เสพยาบ้ามา 2 เม็ด โดยได้ซื้อยาบ้ามาเสพเม็ดละ 50 บาท

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นิมนต์พระ พร้อมทั้งลูกศิษย์วัดที่อยู่ภายในวัด มาทำการตรวจหาสารเสพติด จำนวน 10 ราย พบว่าทั้งหมดยอมรับว่าได้เสพยาบ้าภายในบริเวณวัดจริง ก่อนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการลาสิกขาให้กับทางพระ 3 รูป และนำลูกศิษย์วัด จำนวน 7 ราย ไปทำการสอบสวนและตรวจหายาเสพติดที่แน่ชัดที่สภ.กบินทร์บุรี

ต่อมาเมื่อเวลา 14:00 น. ของวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.กบินทร์บุรี บริเวณห้องสืบสวน พบผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย นั่งรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณห้องสืบสวน ทั้งนี้ยังพบอุปกรณ์เสพยาบ้า พร้อมยาบ้าอีกจำนวน 6 เม็ด อุปกรณ์เสพกัญชา และกัญชาอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งยังพบกัญชาที่หั่น (ยำ) ติดคาอยู่ในเขียง และยังพบจีวรของพระที่นำมาประกอบคำรับสารภาพด้วย

...

จากการสอบถามนายสุทัศน์ ต้นยวด อายุ 48 ปี (ใส่แว่น) อดีตพระได้กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นตนบวชและจำพรรษาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ที่ตนมากบินทร์บุรีเนื่องจากว่ามาหาพระครูที่สนิทกัน โดยตนมาจำวัดกบินทร์บุรีได้ 2 เดือนแล้ว ตนยอมรับว่าตนเสพยาบ้าจริง ส่วนเรื่องไปบิณฑบาตแล้วได้เงินมาซื้อยาบ้านั้น ตนขอบอกว่าไปบิณฑบาตแถวนั้นไม่ค่อยได้เงิน ส่วนเรื่องยาบ้าที่ตนนำมาเสพนั้น เพื่อนเป็นคนเอามาให้ แต่ไม่รู้ว่าเขาเอามาจากไหน ซึ่งตอนที่ตนถูกจับ ตนยอมรับว่าตนยังสวมสบงเป็นพระอยู่ วัดที่ตนจำวัดอยู่นั้นมีพระทั้งหมด 7 รูป จากการตรวจปัสสาวะแล้วมีสารเสพติดจำนวน 3 รูป ก็คือพวกตน

จากการสอบถามนายพิชัย ฐานศรีมี 43 ปี (ชายหัวโล้นเสื้อสีขาว) กล่าวว่า ตนบวชที่บ้านที่ จ.หนองคาย บวชมา 20 พรรษา ตนมาถูกจับสึกจากการตรวจฉี่ หลังจากนั้นตนไม่มีที่ไปจึงได้ขอหลวงพ่ออยู่ที่วัด ตนอยู่ก็ทำงานในวัดรับใช้พระอยู่ที่วัด ส่วนยาที่ตนนำมาเสพนั้นตนยอมรับว่า ตนก็ยังเลิกไม่ได้ และไม่ยอมรับว่าเป็นการมั่วสุมภายในวัด ส่วนที่มีคนพูดว่าพระที่วัดออกไปเที่ยวกลางคืนนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง มีแค่ตนออกไปหาปลาหาหนูตอนคืนเท่านั้น ส่วนยาบ้าตนยอมรับว่าเป็นยาบ้าของตนจริง

ทางด้านนางสาวจีวรา ตะโสรัตน์ อายุ 27 ปี กล่าวว่า ตนออกจากเรือนจำได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็ขึ้นไปหาพี่เขาที่วัด ตอนนั้นโดนจับข้อหาเสพยาแล้วไม่ไปรายงานตัว โดนจับอยู่ 3 วัน ตนได้เอายาไปเสพ 2 เม็ด ไปเสพด้วยกันที่วัด

จากการสอบถามนายสุชาติ ไพเราะ อายุ 52 ปี (เสื้อสีน้ำตาล) บอกตนยอมรับว่าตนดูดกัญชาจริง ส่วนยาบ้ามีคนเอามาถวายจึงได้ลองดูด โดยตนบวชมาแล้ว 10 กว่าพรรษา และยอมรับว่าเพิ่งลองดูดยาบ้าได้มาเดือนกว่าๆ และตนยืนยันว่าตนไม่ได้ติดยาบ้า ถ้าให้หยุดตอนนี้ตนก็หยุดได้ ส่วนในเรื่องที่ตนบวชเป็นพระแล้วใช้ผ้าเหลืองมาเสพยา หากพุทธศาสนิกชนเขารู้เขาก็คงเสียใจ แต่ถ้าหากตนพ้นโทษออกมา ตนก็พร้อมที่จะกลับมาบวชอีกครั้ง ซึ่งการดูดกัญชานั้นก็ไม่สามารถที่จะทำให้ตนลาซึ่งการเป็นพระได้ แต่ตนยอมรับว่าตนเสพยาบ้ามาครึ่งเม็ด เมื่อวานที่ผ่านมา

จากการสอบถาม ร.ต.ต.สุชาติ ไผ่สมบูรณ์ รอง สว.(สส.) สภ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีพระที่เคยบวชอยู่ในวัดดังกล่าวได้ถูกจับสึกในคดีเสพยา แล้วได้กลับไปอาศัยอยู่ที่วัดและมีการเอาผู้หญิงไปนอนมั่วสุมเสพยาอยู่ที่วัดในกุฏิพระ ทางเราได้สืบสวนเรื่อยมาร่วมกับฝ่ายปกครอง วันนี้ได้นัดร่วมกันเข้าไปตรวจค้นที่กุฏิพระ เราเข้าไปก็พบกับพระมหาชัย อยู่ที่กุฏิกับผู้หญิง (แฟน) นอนอยู่ด้วยกัน เมื่อเขาเห็นเราแล้วเขาได้โยนยาบ้าทิ้ง เราได้แสดงตัวและในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่ามียาบ้าไว้ครอบครอง เขาก็ได้รับสารภาพ เราจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ (ผกก. สภ.กบินทร์บุรี) ท่านก็เลยให้นำพระทั้งหมดมาตรวจฉี่

...

เบื้องต้นทั้งหมดที่ได้ตรวจฉี่ ก็พบว่าทุกคนมีฉี่สีม่วงหมด ที่จับสึกมี 3 องค์ เขายอมรับว่าเขาเพิ่งเสพมาเมื่อเช้านี้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ได้มีการสอบปากคำกับผู้ที่มีการเสพและมียาบ้าในครอบครอง และจะมีการขยายผลติดตามผู้ขาย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย โดยมีข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 ลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ เสพสารเสพติด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 10 รายส่งศาลฝากขังดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป