พบแล้ว 8 ศพ ในโรงงานกระดาษทิชชูร่างไหม้ดำเป็นตอตะโก หลังเกิดไฟไหม้รุนแรงทำให้ตัวอาคารด้านหน้าพังถล่ม และยังมีผู้สูญหายอีก 2 คน เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังค้นหา ขณะที่เจ้าหน้าที่โยธาตรวจโครงสร้างอาคารเสียหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คาดสาเหตุมาจากสายพานการผลิตขัดข้องทำให้เกิดไฟลุกไหม้
ตลอดทั้งคืนวันที่ 30 มิ.ย.เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมูลนิธิสว่างรัตนตรัยธรรมสถาน สระบุรี ระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายจากเหตุไฟไหม้บริษัท รีเวอร์โปร์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด เลขที่ 59 หมู่ 4 ซอย 8 นิคมอุตสาหกรรมเหมราช ซอย 8 ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายกระดาษทิชชู เนื้อที่ 35 ไร่ เพลิงโหมกระหน่ำทำให้อาคาร 3 ชั้นที่อยู่ด้านหน้าพังถล่มลงครึ่งอาคาร และหลังคาโรงงานถล่มลงมาด้วย เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 17 คน เสียชีวิต 1 ศพ สูญหายร่วม 10 คน สอบถามพนักงานของโรงงานทราบว่า ช่วงเกิดเหตุพักเที่ยงมีพนักงานอยู่ในโรงงาน 320 คน ทยอยออกมากินข้าว เห็นไฟลุกไหม้ที่ห้องสายพานการผลิตกระดาษ และสายไฟช็อตเข้าไปตัวอาคาร สัญญาณเตือนแจ้งเหตุไฟไหม้ดังลั่นพนักงานต่างวิ่งหนีออกมายืนที่ถนนหน้าโรงงาน และยังมีพนักงานอีกส่วนติดอยู่ในตัวอาคาร
ความคืบหน้าช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริษัท รีเวอร์โปร์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด เลขที่ 59 หมู่ 4 ซอย 8 นิคมอุตสาหกรรมเหมราช ซอย 8 ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายกระดาษทิชชู จุดเกิดเหตุไฟไหม้รับแจ้งจากอาสากู้ภัยทราบว่า การค้นหาภายในตัวอาคารและซากปรักหักพังตลอดทั้งคืนวันที่ 30 มิ.ย.พบผู้เสียชีวิตสภาพร่างถูกไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก 7 ศพ และที่พบก่อนหน้านี้อีก 1 ศพ รวมผู้เสียชีวิตขณะนี้ 8 ศพ ยังสูญหายอีก 2 ราย ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่หยุดภารกิจการค้นหากั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในตัวอาคารที่พังถล่มลงมา ยังพบกลุ่มควันไฟลอยออกมาจากตัวอาคาร มีรถดับเพลิงจอดอยู่ภายในบริษัท 3 คัน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในเต็นท์กองอำนวยการที่ด้านหน้า หากเกิดไฟปะทุเร่งฉีดน้ำดับไฟทันที
...
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเดินสำรวจรอบตัวอาคารเพื่อตรวจความเสียหายพบว่า อาคารทรุดตัวเสียหาย 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้สูญหายพบร่างแล้ว 8 คน คงเหลืออีก 2 คนที่ยังค้นหาไม่เจอ สภาพศพถูกไฟไหม้เกรียมทั้งหมดไม่สามารถระบุตัวตนได้ และเตรียมใช้รถแบ็กโฮเข้ารื้อกระดาษม้วนใหญ่ภายในโรงงานออกมานอกอาคารเพื่อไม่ให้เกิดควันไฟ
ด้านนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค จ.สระบุรี เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่จะปูพรมเร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 2 ราย และเร่งดับไฟที่ปะทุขึ้นมา ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค เชิญญาติผู้สูญหายมาแจ้งข้อมูล และส่งร่างผู้เสียชีวิตตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลทั้ง 8 ศพที่ รพ.ตำรวจ ส่วนสิทธิผลประโยชน์และการดูแลเยียวยาอยู่ในความดูแลของโรงงาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่โยธาและแผนผัง จ.สระบุรี เข้าไปตรวจสอบความมั่นคงของตัวอาคารแล้ว ตัวโครงสร้างอาคารเสียหายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องรอการประเมินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
“จากเหตุการณ์นี้ต้องเรียกผู้ประกอบการโรงงานทั้งหมดภายในอำเภอหนองแค เข้าร่วมประชุมเรื่องความปลอดภัยภายในโรงงานถอดบทเรียนจากโรงงานแห่งนี้ ในส่วนความปลอดภัยของ บ.ริเวอร์โปร์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด ที่ถูกไฟไหม้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานอยู่แล้ว เพียงแต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไฟไหม้รุนแรง ส่วนต้นตอเพลิงไหม้น่าจะเกิดขึ้นที่ไลน์ผลิตและเครื่องจักร” นายสันทัศน์กล่าว
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่