โรคหัวใจ เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของหัวใจ และเป็นโรคที่ฟังดูน่ากลัวสำหรับทุกคน เพราะ ‘หัวใจ’ เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อหัวใจเกิดความผิดปกติขึ้นมา แม้เพียงนิดเดียวก็อาจส่งผลกระทบให้ร่างกายเกิดปัญหาจนถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้ นั่นทำให้เวลาเกิดอาการแน่นหน้าอก รู้สึกหอบ เหนื่อยง่าย หรือมี Heart Rate พุ่งสูงขึ้นมา หลายคนเลยกังวลว่าตนเองกำลังเป็นโรคหัวใจอยู่หรือเปล่า? แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเสี่ยงเป็นโรคหัวใจอยู่จริงๆ หรือแค่วิตกไปเองกันแน่? บทความนี้เราเลยขอมาแชร์ข้อมูลด้านสุขภาพ รวมอาการโรคหัวใจระยะแรก วิธีสังเกตตนเองว่า อาการเข้าข่ายเป็นโรคหัวใจเป็นอย่างไร อยากรู้เท่าทันปัญหาสุขภาพ ป้องกันก่อนสายเกินแก้ ตามมาอ่านกันได้เลย!
วิธีสังเกตอาการโรคหัวใจระยะแรก
โรคหัวใจ (Heart Disease) เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของหัวใจ และยังสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดเกิดในส่วนของหัวใจที่แตกต่างกันออกไป เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือโรคลิ้นหัวใจ ทำให้มีแนวทางการรักษา อาการที่แสดงออก และการดูแลสุขภาพที่ละเอียดแตกต่างกันไปด้วย สำหรับวิธีสังเกตอาการโรคหัวใจระยะแรกดังต่อไปนี้ เป็นวิธีสังเกตเบื้องต้นว่า หัวใจเริ่มมีปัญหาในการทำงานหรือมีหลอดเลือดหัวใจตีบแคบลง โดยอาจเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ทำกิจกรรมออกแรงหรือขณะอยู่เฉยๆ ก็ได้
มีอาการจุกแน่นหน้าอก จุกใต้ลิ้นปี่
อาการโรคหัวใจระยะแรกที่เกิดขึ้นกับคนไข้หลายๆ ราย คือมักจะมีอาการจุกแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก หรือจุกใต้ลิ้นปี่อย่างรุนแรง คล้ายกับมีของหนักมากดทับบริเวณกึ่งกลางหน้าอก และอาจรู้สึกร้าวไปทั่วแขนซ้าย ไหล่ซ้าย คอ กราม หลัง หรือท้องได้ โดยอาจเกิดขึ้นขณะทำกิจกรรมที่มีการออกแรงอย่างต่อเนื่อง เช่น เดินเร็ว เดินขึ้นบันได ยกของหนัก หรือรู้สึกเครียด สำหรับอาการเหล่านี้ อาจเตือนว่าหัวใจเราเกิดการบีบรัด ทำงานผิดปกติ บางรายเมื่อพักผ่อนอาจรู้สึกว่า อาการค่อยๆ ดีขึ้น แต่บางรายอาจต้องมีการรับประทานยาหรือพบแพทย์ด่วน
มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ หายใจหอบถี่
หากจู่ๆ ก็มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ หายใจหอบถี่ ขณะทำกิจกรรมที่เคยชิน เคยทำได้สบายๆ เช่น เดิน ทำความสะอาดบ้าน หรือแม้กระทั่งขณะพักผ่อนเฉยๆ ก็ยังรู้สึกหายใจไม่ทัน หอบถี่ หายใจลำบาก และอ่อนเพลียอย่างรุนแรง อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่า หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้เพียงพอ และอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคหัวใจระยะแรก
มีอาการบวมตามร่างกายส่วนต่างๆ
อาการบวมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น เท้า ข้อเท้าบวม หากกดแล้วบุ๋ม รู้สึกว่ารองเท้าคับขึ้นในตอนเย็นๆ หรือน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งวัน นับเป็นหนึ่งในสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ อาการโรคหัวใจในระยะแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะที่เรียกว่า หัวใจล้มเหลว (Heart Failure) ซึ่งเป็นภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และทำให้มีของเหลวคั่งค้างในเนื้อเยื่อส่วนปลาย
มีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด และเป็นลมหมดสติ
ถัดมากับอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ที่บางรายอาจเป็นลมหมดสติโดยไม่รู้ตัว เป็นอีกอาการสำคัญของโรคหัวใจระยะแรก มักบ่งชี้ว่า หัวใจเราไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ โดยหัวใจอาจเต้นช้าเกินไป เร็วเกินไป หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ หากจู่ๆ ก็วิงเวียนศีรษะขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ทั้งยังรู้สึกอ่อนเพลียอย่างรุนแรง ก็แนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์โดยด่วน
และนี่คืออาการส่วนหนึ่งที่เป็นสัญญาณเตือนของโรคหัวใจระยะแรก หากใครที่พบว่าตนเองมีอาการดังกล่าว ไม่ว่าจะจุกแน่นหน้าอก เจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยกว่าปกติ หัวใจเต้นเร็ว จู่ๆ ร่างก็บวมขึ้นมา หรือวิงเวียนศีรษะ จนหน้ามืดเป็นลม ก็อย่าได้มองข้ามอาการตนเอง คิดว่าพักผ่อนไม่นานก็คงดีขึ้นเพียงอย่างเดียว หนทางที่ดีที่สุดคือแนะนำไปให้พบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการโดยละเอียด เพราะการรู้ไว้ก่อน ก็เพิ่มโอกาสในการรักษาและการป้องกันได้ ที่ Vibhavadi Hospital - โรงพยาบาลวิภาวดี มีโปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจ Health Heart Program และ Heart - Platinum Program ที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสม ตรงกับความเสี่ยงของแต่ละคน
นัดหมายแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพหัวใจ
https://www.vibhavadi.com/th
LINE: @Vibhavadihospital
Tel: 02-561-1111, 02-058-1111