เกมแล้ว "หญิงเสื้อดำ" ชาวกัมพูชา แกนนำป่วนด่านบ้านคลองลึก ที่ อ.อรัญประเทศ พบลักลอบเข้ามาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ยอมรับเคยขอทานในไทยจริงราว 3-4 ปี ก่อน แต่เลิกแล้ว
จากกรณีที่ช่วงเย็นวันที่ 25 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา เกิดเหตุชุลมุนหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ (จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีประชาชนชาวกัมพูชามาต่อแถวยืนรอกลับบ้าน ขณะที่หลายคนก็ได้มีการรวมตัว ตะโกนโห่ร้อง ก่อความวุ่นวายหน้าด่านเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้ จนต้องมีการควบคุมสถานการณ์ ก่อนที่ต่อมา ทางกองกำลังบูรพา จะอนุโลมเปิดด่านให้ชาวกัมพูชาที่ถือเอกสาร Border Pass เดินทางกลับประเทศเป็นกรณีพิเศษในช่วงเวลา 19.00–20.30 น. ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (ด่านอรัญประเทศวุ่น เขมรลุกฮืออ้อนวอนขอกลับบ้าน ถึงกับยกมือไหว้ กกล.บูรพาอนุโลม เปิดให้)
ซึ่งต่อมาโลกโซเชียลได้มีการแชร์ภาพ และคลิปวิดีโอช่วงก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น โดยพบว่ามีหญิงแขนพิการใส่เสื้อดำคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนริเริ่มในการลุกฮือประท้วงเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งยังประกาศกร้าวว่า "ถ้าไม่เปิดด่าน เราจะนอนตรงนี้ ขี้ตรงนี้ เยี่ยวตรงนี้ ไม่ไปไหน"
ทำให้หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ก่อนจะมีคนแฉถึงภาพ และเล่าพฤติกรรมของหญิงพิการดังกล่าว ว่าเคยพบมานั่งขอทานในประเทศไทย จึงพากันเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
...
ล่าสุดมีรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้อนุโลมให้ชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ ขณะผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ตามกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พบว่า หญิงพิการชาวกัมพูชารายดังกล่าว ไม่สามารถแสดงเอกสารการเดินทางเข้าออกประเทศได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การว่า ได้ลักลอบเดินทางผ่านเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติเข้ามายังประเทศไทย เพื่อไปหางานทำ และยอมรับว่าเคยประกอบอาชีพขอทานในประเทศไทย แต่ได้เลิกอาชีพขอทานไปแล้ว ราว 3-4 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา "เป็นบุคคลต่างด้าว (สัญชาติกัมพูชา) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต"
โดยตรวจสอบพบว่า หญิงชาวกัมพูชาคนนี้ได้เดินทางผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2562 อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดจำนวน 2032 วัน จึงถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
ด้าน พ.ต.อ. ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ระบุว่า หญิงกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาทำงานผ่านช่องทางธรรมชาติ และมาทำอาชีพขอทาน การจับกุมไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ต้องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบปากคำในรายละเอียดเพื่อขยายผล.