ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี รายงานนายกฯ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังปกติ ความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดของเพื่อนบ้านยังแน่นแฟ้น แม้มีผลกระทบบางส่วน ขณะที่ด่านถาวรบ้านผักกาด เงียบเหงา หลังมีคำสั่งเข้มงวด ห้ามรถบรรทุกมันสำปะหลัง รวมถึงพืชไร่ต่างๆ จากกัมพูชาเข้าไทย
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 เพจเฟซบุ๊ก ข่าวจันทบุรี ของสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.จันทบุรี เปิดเผยถึง นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี รายงานสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่จังหวัดต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า แม้จะได้รับผลกระทบบางประการจากสถานการณ์ระดับประเทศ แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง จ.จันทบุรี กับ จ.พระตะบอง และ จ.ไพลิน ของประเทศกัมพูชา ยังคงดำเนินไปตามปกติ ไม่พบการกระทบกระทั่งหรือความขัดแย้งในระดับพื้นที่

โดยด้านเศรษฐกิจและการค้า การนำเข้า–ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศผ่านแนวชายแดนยังคงดำเนินการได้เป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นบางกรณี โดยเฉพาะจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ซึ่งขณะนี้ ปิดให้บริการสำหรับรถขนส่งสินค้า แต่ยังอนุญาตให้ประชาชนเดินเท้าผ่านเข้า–ออกได้ตามปกติ ในส่วนของจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด, จุดผ่อนปรนสวนส้ม และซับตารี การขนส่งสินค้ายังสามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าทั่วไป อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสำหรับ “ผักและผลไม้” ซึ่งปัจจุบันทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา เห็นพ้องร่วมกันให้งดการนำเข้า–ส่งออกชั่วคราว เพื่อความเป็นธรรมทางการค้าและลดความขัดแย้ง ส่งผลให้ทุกด่านชายแดนต้องชะลอการเคลื่อนย้ายผักและผลไม้ในช่วงนี้ แม้จะต้องใช้เส้นทางอ้อมและมีระยะทางไกลขึ้น แต่ผู้ประกอบการยังสามารถปรับตัวและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
...

ด้านพลังงาน ในส่วนของการใช้พลังงานไฟฟ้า ฝั่งไทยไม่ได้มีการตัดกระแสไฟไปยังฝั่งกัมพูชาแต่อย่างใด โดย จ.จันทบุรี มีจุดเชื่อมต่อไฟฟ้าทั้งหมด 3 จุด คิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แต่ฝั่งกัมพูชา ได้ระงับการใช้ไฟฟ้าฝั่งไทยชั่วคราว ซึ่งเป็นการตัดสินใจภายในของฝั่งกัมพูชาเอง
ด้านการท่องเที่ยวและการเดินทาง ประชาชนยังสามารถเดินทางข้ามแดนเพื่อทำงานได้ตามปกติ มีการตรวจเข้ม แต่ปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงอย่างชัดเจน เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ระดับประเทศ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเดินทางข้ามแดนเพื่อท่องเที่ยวในช่วงนี้
ด้านความมั่นคง ไม่มีรายงานการเคลื่อนไหวของกำลังพล หรือการเสริมกำลังทางทหาร อาวุธ หรือยุทโธปกรณ์ มีเพียงการเพิ่มรอบการลาดตระเวน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ขณะที่ประชาชนบริเวณแนวชายแดน ราว 10,000 คน ได้รับการแจ้งเตือนและฝึกซ้อมการอพยพตามแผนที่จัดไว้ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยมีการเตรียมพื้นที่รองรับ เช่น โรงเรียนประจำอำเภอ 3 แห่ง ที่ว่าการอำเภอ 1 แห่ง รวม 4 แห่ง และโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง พร้อมดำเนินการตามแผนอพยพในทันทีหากมีสัญญาณเตือน

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างแดน นายมนต์สิทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ย้ำว่า หลังจากที่ได้พูดคุยหลายครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่าง จ.จันทบุรี กับ จ.พระตะบอง และ จ.ไพลิน ไม่เคยเกิดเหตุปะทะหรือความขัดแย้งแม้ในช่วงปี 2554 ที่สถานการณ์ตึงเครียดมากกว่าปัจจุบัน และในครั้งนี้ ก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่น เพียงแต่สถานการณ์ระดับประเทศบานปลาย ทำให้ทุกฝ่ายต้องเฝ้าระวัง เตรียมพร้อม และปรับตัวทั้งด้านเศรษฐกิจและความปลอดภัยอย่างรอบคอบ

...
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจากการได้เดินทางเข้าพื้นที่ด่านถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จันทบุรี หลังมีมาตรการสั่งห้ามรถบรรทุกมันสำปะหลังจากกัมพูชาเข้าไทย บรรยากาศหน้าด่านเงียบเหงาทันตา เนื่องจากขาดกลุ่มรถบรรทุกมันสำปะหลังเข้าออก คงเหลือเพียงรถเทรลเลอร์สินค้าที่ยังเดินทางออกส่งสินค้าอยู่ และในส่วนด่านบ้านแหลมนั้นฝั่งกัมพูชา ปิดประตูใหญ่ ไม่มีการขนส่งสินค้าทุกประเภท กลุ่มท่องเที่ยวเว้นไทยกับกัมพูชา นอกนั้นมีการเข้าออกปกติ