“โสภณ ซารัมย์” ยันพรรคภูมิใจไทย ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้เล่นแง่ ชี้เมื่อไม่ไว้ใจกันก็ไม่จำเป็นต้องทำงานร่วมกัน ส่วนหลังจากนี้รัฐบาลจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของรัฐบาล พร้อมให้ข้อคิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียง แนะยึดหลักมงคลสูตร 38 ประการ ไม่คบคนพาล คบคนดี บูชาคนที่ควรบูชา
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายโสภณ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ เขต 5 พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดกิจกรรม Super Big Cleaning Day บ้านเมืองรักษ์สะอาด ลำปลายมาศปลอดยาเสพติด ที่สำนักงานเทศบาลเมืองลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่มูลนิธิอาณัตพล ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ร่วมกับส่วนราชการ และหลายหน่วยงานจัดขึ้น โดยการปูพรมค้นหาผู้เสพยาเสพติดเพื่อนำมาเข้าโครงการบำบัดรักษา
ถึงกรณีก่อนหน้านี้ที่พรรคเพื่อไทย อ้างว่าต้องการเอากระทรวงมหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะขอถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ว่า ตนเองขอท้าให้พรรคหรือคนที่อ้างว่าสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดลงได้ ให้มาดูโครงการที่ตนเองได้ลงมือทำ ท้าให้มาดูเลยว่าเรื่องยาเสพติดที่บอกว่าหลายพรรคอยากดูแล ต้องภูมิใจไทยเป็นคนดูแล โดยนายโสภณ

...
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย มองอย่างไรกรณีที่พรรคภูมิใจไทยได้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล นายโสภณ กล่าวว่าไม่เป็นไร เรื่องของการเมือง ถ้ามันไปไม่ได้ ถ้าเราไม่มีความเชื่อใจกัน และอยู่ด้วยกันไม่ไว้ใจกันแล้ว อย่าว่าแต่ประเทศเลย องค์กรมันก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ ดังนั้นสิ่งที่พวกตนเรียกร้องก็คือ ความสามัคคี การสร้างความสามัคคี ซึ่งตนเองเคยบอกแล้วว่าผู้นำจะต้องสร้างความไว้ใจ อย่างในระดับประเทศนายกฯ ก็จะต้องสร้างความไว้ใจให้ประชาชนไว้ใจ ให้เพื่อนร่วมงานก็คือในระดับ ครม.ไว้ใจเชื่อถือว่าต่างคนต่างไว้ใจกัน ไม่ระแวงกัน เพื่อที่จะได้เป็นที่พึ่งซึ่งกันและกันได้
อย่างวันนี้ก็เหมือนว่าเขาไม่ไว้ใจเรา เมื่อไม่ไว้ใจเราก็จำเป็น แต่ถามว่าเราเล่นแง่ไหม ก็ไม่นะ เพราะเรามีความจำเป็น ในเมื่อไม่ไว้ใจกันในการทำงานร่วมกันก็จำเป็น ซึ่งเรากลัวว่ามันจะไม่ได้ผล บางทีมันได้แต่ภาพ ดังนั้นเราจึงต้องถอยออกมา ส่วนรัฐบาลจะเดินทางไปต่ออย่างไรก็เรื่องของรัฐบาล ระดับประเทศก็เป็นเรื่องของผู้นำที่จะบริหารจัดการต่อไป
เมื่อถามว่า มองอย่างไรเกี่ยวกับกรณีคลิปเสียงระหว่างนายกฯ กับสมเด็จฮุน เซน นายโสภณ กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้ยึดถือตามแนวทางคำสอนของตถาคต ก็คือพระพุทธเจ้าที่ท่านได้ตรัสไว้ในมงคลสูตร อันแรกเลยมงคลแรกเลย อเสวนาจะพาลานัง เอตัมมังกาละมุตตัมมัง การไม่คบคนพาล เป็นอุดมมงคลอย่างยิ่ง บัณฑิตาจะเสวนังเอตัมมังกาละมุตตัมมัง การคบคนดีเป็นอุดมมงคลอย่างยิ่ง การบูชาคนที่ควรบูชาเป็นอุดมมงคลอย่างยิ่ง คลิปก็คือ คุณก็คบคนพาลอ่ะ ง่ายไหมถูกไหมก็คุณไม่คบคนดี คุณไม่บัณฑิตาจะ คุณไม่บูชาคนที่ควรบูชา คุณไม่ปูชนียานัง เอตัมมังกาละมุตตะมัง เอาแค่นี้จบเลย เห็นภาพเลย
เมื่อถามต่อว่า แล้วแบบนี้มองว่ารัฐบาลจะไปต่อได้หรือไม่อย่างไร นายโสภณ กล่าวว่าเรื่องของเขา พร้อมกับหัวเราะ และบอกว่า เรื่องของเขานะครับ เห็นภาพเลย

ถามอีกว่า แสดงว่านายกฯยังคบคนพาลอยู่ใช่ไหมแบบนี้ นายโสภณกล่าวว่า ผมไม่รู้แต่ผมให้ข้อคิด พระพุทธเจ้าท่านตรัสเรื่องนี้ไว้สำคัญมากในมงคลสูตร เวลาถึงบทนี้จะต้องไปจุดเทียนน้ำมนต์ ว่าบัดนี้แสงสว่างจะเกิดขึ้นแล้วไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร แสงสว่างจะเกิดขึ้นแล้ว ขอให้คุณไปปฏิบัติ อย่าคบคนพาลให้คบคนดี ให้บูชาคนที่ควรบูชา และมงคลสุดท้าย คือทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว และอันนี้ก็เป็นข้อคิดของพุทธศาสนิกชน ถ้าใครยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ต้องเอาหลักคำสอนนี้ไปคิดไปปฏิบัติยังไง ก็แล้วแต่คุณจะคิด เพราะถ้าคุณเป็นพุทธศาสนิกชนคุณก็ต้องเอาคำสอนไปยึดถือปฏิบัติ ไม่ใช่เอาแค่พุทธไปไว้ในบัตรประจำตัวประชาชน