สอ.รฝ.กองทัพเรือ ทดสอบความพร้อมรบ กองร้อยปืนรักษาฝั่ง สนับสนุนนาวิกโยธิน รับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเกิดศึกสงครามพื้นที่แนวชายแดน
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 กองทัพเรือ โดย พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) เป็นประธานตรวจการทดสอบความพร้อมขั้นสูงสุด กองร้อยปืนรักษาฝั่ง สนับสนุนต่อต้านภัยคุกคามทางบกและชายฝั่งทะเล เพื่อเข้าให้การสนับสนุนหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและกองทัพบก รับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเกิดศึกสงครามพื้นที่แนวชายแดน โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาเข้าร่วมสังเกตการณ์ ณ ลานสาธิตทางทหาร หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี


...

ในการนี้ นาวาเอก จรูญ เอี่ยมสวัสดิ์ ผู้บังคับการกรมรักษาฝั่งที่ 1 นำกำลังพลรบจำนวน 277 นาย อาวุธปืนใหญ่กลาง กระสุนวิถีโค้ง จำนวน 8 กระบอก ปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มิลลิเมตร CQ จำนวน 256 กระบอก ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 จำนวน 20 กระบอก ยานพาหนะ จำนวน 10 คัน และเครื่องมือสื่อสาร เข้ารับการตรวจ พร้อมสาธิตการติดตั้งระบบอาวุธ ปืนใหญ่กลาง กระสุนวิถีโค้ง ขนาด 155 มิลลิเมตร ลำเลียงโดยรถยนต์ทางทหาร เดินทางเข้าสู่ที่หมาย และติดตั้งระบบอาวุธที่ใช้ระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่ถึง 10 นาที ก็สามารถพร้อมทำการยิงได้ทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง


หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หรือ สอ.รฝ. ถือเป็นหน่วยกำลังรบหลักที่สำคัญของกองทัพเรือ มีภารกิจหน้าที่ในการปกป้องและรักษาอธิปไตยของชาติทางทะเลและน่านฟ้า ปัจจุบัน พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) คุมกำลังพลรบ 42,000 นาย ซึ่งได้รับการฝึกฝนด้านการรบทั้งด้านยุทธวิธีและการใช้อาวุธมาเป็นอย่างดี มีอาวุธประจำหน่วยที่สำคัญ มีความทันสมัยและทรงแสนยานุภาพในการทำลายล้าง ประกอบด้วย ปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีราบ ขนาด 130 มิลลิเมตร ปืนใหญ่กลาง กระสุนวิถีโค้ง ขนาด 155 มิลลิเมตร ปืนต่อสู้อากาศยาน ขนาด 37 และ 40 มิลลิเมตร อาวุธยิงจรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานระยะใกล้ IGLA-S จำนวน 2 ระบบ แบบประทับบ่า และติดตั้งกับตัวรถแท่นคู่ มีระยะการยิง 1,800 เมตร ตรวจจับเป้าหมายด้วยการรับรังสีอินฟราเรดที่แพร่ออกมาจากแหล่งความร้อนของตัวอากาศยาน อาวุธจะทำการล็อคเป้า ตัวจรวดจะติดตามพุ่งเข้าทำลายเป้าหมายอย่างแม่นยำ

...

นอกจากนี้ ยังมีอาวุธที่เข้ามาประจำการใหม่ล่าสุด คือ อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศอัตตาจร FK-3 ระยะปานกลางแบบเคลื่อนที่ มีระยะการยิงแม่นยำไกล 5 - 100 กิโลเมตร ผลิตจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มีประจำการในหน่วย 3 คัน ๆ ละ 4 ท่อยิง รวม 12 ท่อยิง สามารถยิงขีปนาวุธต่อเนื่องพร้อมกัน 12 นัด จึงถือเป็นเขี้ยวเล็บที่ทรงแสนยานุภาพสูงสุดของหน่วยในเวลานี้.