บรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชาเงียบเหงา หลังมีคำสั่งห้ามนักพนัน-นักท่องเที่ยวข้ามแดน ขณะที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดิ้นรนหาทางลอบเข้ากัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติ
วันที่ 18 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ภายหลังทางการไทยมีคำสั่งเข้มงวด "ห้ามนักพนัน นักท่องเที่ยว และพนักงานสถานบันเทิง" เดินทางข้ามไปยังประเทศกัมพูชาโดยเด็ดขาด ส่งผลให้บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้เงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างจากภาพคึกคักในช่วงปกติที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและกลุ่มคนที่ต่อคิวเข้าบ่อนคาสิโนในฝั่งปอยเปต

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจพบว่า กลุ่มที่เคยเป็นที่จับตาอย่าง "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ก็หายไปจากพื้นที่ด่านคลองลึก ไม่ปรากฏตัวเหมือนเช่นเคย ไม่มีการเข้าแถว ไม่มีการรวมตัวบริเวณหน้าด่านแต่อย่างใด สร้างความผิดสังเกตให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างในพื้นที่ชายแดนรายหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์บางส่วน ยังคงไม่ล้มเลิกความพยายาม โดยหันไปใช้เส้นทางธรรมชาติแทน "มีรถรับส่งนำพาไปทางป่า ทางร้างบางจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึง พอเข้าแนวชายแดนก็มีคนนำพาข้ามไปต่อฝั่งกัมพูชา เพื่อไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหมือนเดิม" วินรายหนึ่งกล่าวยืนยัน
...

บรรยากาศภายในตลาดโรงเกลือ เขตอรัญประเทศ ก็สะท้อนสถานการณ์ในทิศทางเดียวกัน ห้องพักเกือบทั้งหมดเต็ม เนื่องจากมีกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวต่างชาติและบุคคลไม่ทราบสัญชาติจำนวนมาก ปักหลักรอจังหวะข้ามแดน โดยเชื่อว่ายังมี "เส้นทางธรรมชาติบางจุดที่สามารถใช้งานได้อยู่" ทำให้ยังไม่ยอมถอนตัวออกจากพื้นที่
ด้านแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝั่งบ่อนคาสิโนในกัมพูชา เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ ผู้บริหารบ่อนจำนวนหลายแห่งในฝั่งปอยเปต ได้เรียกประชุมด่วน เพื่อรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบจากการห้ามเดินทางข้ามแดนของฝั่งไทย ซึ่งทำให้รายได้จากนักพนันลดลงอย่างมาก
"มีคำสั่งให้ลูกน้องแต่ละบ่อน ออกไปถ่ายรูปตามร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่ต่างๆ ใกล้แนวชายแดน โดยเฉพาะร้านที่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยอาจ 'ปล่อย' ให้ผ่านได้ หรืออาจมีช่องทางให้เล็ดรอดได้ในอนาคต เพื่อเก็บข้อมูลไว้ใช้ประสานงาน" แหล่งข่าวระบุ

ในขณะเดียวกัน หน่วยงานความมั่นคงในฝั่งไทย ทั้งทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ยังคงตรึงกำลังเข้มตลอดแนวชายแดน พร้อมตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงต่อการลักลอบเข้าออกอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายหลักคือการสกัด “กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ไม่ให้หลุดรอดออกนอกประเทศไปยังฐานปฏิบัติในฝั่งกัมพูชา
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงมีเครือข่ายขนาดใหญ่ในฝั่งปอยเปต ซึ่งมีความพร้อมทั้งสถานที่ อุปกรณ์ และการอำนวยความสะดวกจากกลุ่มทุนบางกลุ่ม ทำให้ยังเป็นเป้าหมายที่บุคคลจำนวนมากพยายามเดินทางเข้าไปทำงาน แม้จะต้องใช้เส้นทางผิดกฎหมายก็ตาม
สถานการณ์ชายแดนยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่หวังลักลอบข้ามแดน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ต่อไป.