นครราชสีมา “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันอดทนจนถึงที่สุด กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หากต้องใช้กำลังก็พร้อมที่จะรักษาแผ่นดินไทย แต่เป็นแนวทางสุดท้าย ด้านภาครัฐและเอกชนมอบเงินและเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมส่งกำลังใจให้ทหารไทย

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่หน้าสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับมอบเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท พร้อมด้วยเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง จากพระมหาต่อ เจ้าอาวาสวัดแจ้งใน อ.เมืองนครราชสีมา พร้อมภาคเอกชนอาทิ บริษัท PCS นครราชสีมา บริษัทโสมเกาหลีตังกุยจั๊บ, นายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ในฐานะเอกชนรายใหญ่ของ จ.นครราชสีมา บุตรชาย ดร.สุจินดา เชิดชัย “เจ๊เกียว” และคณะผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร (พสบ.) กองทัพภาคที่ 2 เพื่อนำไปมอบให้กับทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของไทยตามแนวชายแดนด้าน จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์

...

โดยภายหลังทางแม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า สถานการณ์ตอนนี้กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่ายนั้นเผชิญหน้ากันอยู่ในพื้นที่ของตนเอง แต่ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ทางฝั่งกัมพูชานั้นก็ได้มีการระดมพลมาประจำการอยู่ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เพราะต้องการแสดงแสนยานุภาพของกองกำลังฝ่ายตนเอง แต่ของฝั่งไทยเองนั้นก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว เพื่อรองรับหากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง

ส่วนกรณีแถลงการณ์ของฝั่งกัมพูชาที่จะไม่ร่วมการเจรจาคณะกรรมการพิจารณาเขตแดนหรือ JBC ที่จะจัดขึ้นที่กรุงพนมเปญนั้น ก็ถือว่าเป็นวิธีการของฝั่งกัมพูชา ที่ก็ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลของไทยที่จะต้องวางแผนในการเจรจาต่อรองเพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคลี่คลายโดยที่ไทยนั้นไม่เสียดินแดน

“ขอยืนยันแนวทางของฝั่งไทยว่า การใช้กำลังทหารนั้นจะเป็นแนวทางสุดท้ายในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และจะขออดทนให้ถึงที่สุด แต่ถ้าอดทนจนถึงที่สุดแล้ว ถ้าจำเป็นที่จะต้องปกป้องแผ่นดิน ก็จำเป็นต้องใช้กำลัง อย่างไรก็ตามก็คงจะต้องรอดูผลการประชุมเจรจาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.