ถ้าจะพูดว่าปีนี้คนไทยโชคดีได้กิน “ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้เมืองร้อนของไทยในราคาถูกกว่าหลายปีที่ผ่านมามาก ก็เกรงใจชาวสวนผลไม้

เพราะการที่ผู้บริโภคซื้อได้ในราคาถูก หมายความว่าชาวสวนขายได้ในราคาต่ำ ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด ณ ขณะนี้ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ และเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว

จากการสอบถาม เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 68 “นายวสันต์ รื่นรมย์” ซึ่งทำสวนทุเรียน ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยใช้ “เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ” นำข้อมูล ผลการวิเคราะห์สภาพดินฟ้าอากาศมาใช้วางแผนการผลิต รวมทั้งใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ช่วยเพิ่มผลผลิต ทำให้ทราบว่า

ปีนี้การส่งออกทุเรียนไปจีนไม่หวือหวา ขณะนี้ส่งออกได้วันละ 600 ตู้คอนเทนเนอร์ และราคาขายหน้าสวนเหลือกิโลกรัม (กก.) ละ 90-95 บาท จากปีก่อนที่ส่งออกได้วันละมากกว่า 1,000 ตู้ และราคาสูงถึง กก.ละ 120 บาท ทั้งๆที่ยังมีคู่แข่งในตลาดจีนไม่มากนัก

สาเหตุที่ราคาร่วง เป็นผลทางจิตวิทยาจากการที่จีนเข้มงวดตรวจสารตกค้าง BY2 (สารเคมีที่ผสมในสีย้อมผ้า และล้งจีนให้ชาวสวนของไทยนำมาชุบทุเรียน เพื่อให้มีสีเหลืองทองสวยงาม) แบบ 100% หรือตรวจทุกลอต ทุกตู้ ทำให้ทุเรียนไทยส่วนหนึ่งถูกตีกลับ เพราะพบสารตกค้าง และล้งจีนชะลอซื้อ เพื่อรอการแก้ปัญหา

ส่งผลให้การส่งออกลดลง ข้อมูลจาก Global Trade Atlas ระบุว่า เดือน ม.ค.-เม.ย.68 จีนนำเข้าทุเรียนไทย 533.24 ล้านเหรียญ ลดลง 36.57% จากช่วงเดียวกันของปี 67 ที่นำเข้า 716.69 ล้านเหรียญ และช่วง 4 เดือนปี 66 นำเข้า 1,397.44 ล้านเหรียญ

ขณะที่ทั้งปี 67 นำเข้า 4,014.35 ล้านเหรียญ ลดลง 11.94% จากปี 66 ที่นำเข้า 4,558.68 ล้านเหรียญ

นอกจากนี้ ยังได้รับการแจ้งจากตลาดจีนว่า ทุเรียนไทยคุณภาพไม่ดี “ฉ่ำน้ำ” จากฝนตกชุก และบางลอตเป็น “ทุเรียนอ่อน” ประกอบกับมีการนำเข้าทุเรียนแกะเปลือกแช่แข็งจำนวนมาก เพื่อแปรรูปเป็นทุเรียนฟรีซดราย (Freeze Dried) ซึ่งกระทบราคาทุเรียนไทยมาก รวมทั้งมีล้งบางรายนำเข้าทุเรียนสดจากเพื่อนบ้านในราคาถูกกว่าซื้อในไทย เพื่อส่งออกไปจีน และเอามาเป็นเหตุอ้างกดราคาซื้อจากชาวสวนไทย

...

ทั้งนี้ ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดตรวจสอบสุขอนามัยพืชของทุเรียนนำเข้า เพราะทุเรียนเวียดนามปนเปื้อนแคดเมียม และ BY2 หากสวมสิทธิ์ไทย หรือส่งออกโดยแอบอ้างว่าเป็นผลผลิตของไทย จะกระทบต่อภาพลักษณ์อันดีของทุเรียนไทยได้

สำหรับ “อนาคตทุเรียนไทย” ยังมีอยู่ แต่เกษตรกรต้องปรับตัว ผลิตทุเรียนคุณภาพ ลดต้นทุน ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต เพื่อหนีคู่แข่งที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ลาว

ถ้าไม่อยากให้ “ต้นไม้ทองคำ” เหลือแต่ชื่อ เกษตรกรต้องปรับตัวหนีการแข่งขัน ขณะที่ภาครัฐก็ต้องลุยหาตลาดอื่นๆที่มีศักยภาพ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดจีนเพียงตลาดเดียว.

ฟันนี่เอส

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม