หนุ่มอุดรฯ ยึดพื้นที่ฮวงซุ้ยวัดดงอุดมวนาราม จ.อุดรธานี เป็นบ้าน นำเสื้อผ้าและขยะมาไว้ ไล่หลายรอบแต่ไม่ยอมไป ขู่จะตีพระหากไม่กลัวบาป
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป. สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้ง มีชายเข้าไปยึดพื้นที่ฮวงซุ้ยฝังศพ ภายในวัดดงอุดมวนาราม ชุมชนหนองบัว เขตเทศบาลนครอุดรธานี แล้วขึ้นไปเมรุส่งเสียงดังโวยวาย พระไล่ให้ออกจากพื้นที่ก็ไม่ยอมไป แถมยังขู่จะทำร้ายพระ จึงนำกำลังสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชายทราบชื่อคือ นายจิก อายุ 39 ปี ชาวตำบลนิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี นั่งอยู่ข้างบนเมรุ เจ้าหน้าที่บอกให้ยกมือขึ้น ก่อนเข้าไปควบคุมตัว ซึ่งในตอนแรกพยายามขัดขืน ตำรวจจึงจำเป็นต้องใส่กุญแจมือไขว้หลังเอาไว้ แล้วตรวจค้นตัวและกระเป๋าสะพายสีดำ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ส่วนพื้นที่ฮวงซุ้ยที่ข้างเมรุ นายจิกได้เอาเสื้อผ้าสิ่งของและขยะที่เก็บมา นำไปกองเอาไว้เต็มไปหมด ทำเหมือนว่าจะเป็นบ้านของตนเอง สร้างความเดือดร้อนให้แก่วัด
...
นางมะลัย พันธ์โสภา อายุ 59 ปี เล่าว่า ครอบครัวของตนเป็นสัปเหร่อที่วัดแห่งนี้ เห็นนายจิกเดินมาจากบ้านหนองใส แล้วเข้ามาอยู่ในวัด เจ้าอาวาสวัดคนก่อนจึงได้ผลักดันไล่หนีให้ออกมาจากวัดไป แต่ไม่กี่วันนายจิกก็กลับเข้ามาในวัด แล้วยึดพื้นที่ฮวงซุ้ยที่ฝังศพ ขนข้าวของมาอยู่ เวลาฝนตกก็ขึ้นมานอนบนเมรุ ทำสกปรกข้างบน ไล่นายจิกให้ออกจากวัดไป แต่เขาก็ไม่ยอมไป แล้วยังบอกว่าแจ้งตำรวจมาไล่ก็ไม่กลัว แถมยังด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนหน้านี้ได้ไปข่มขู่จะตีพระกล่าวหาว่าพระขโมยไฟแช็กไป
ด้านพระคณาทรัพย์ คลังบริบูรณ์ อายุ 28 ปี พระลูกวัด เล่าว่า นายจิกได้ขนสิ่งของเสื้อผ้า ของใช้ เข้ามาอยู่ในวัดยึดพื้นที่ฮวงซุ้ยของชาวบ้านที่เอาไว้ฝังญาติพี่น้อง พยายามไล่หนีไปหลายครั้ง แต่ไม่ยอมไป แถมยังโวยวายเสียงดังทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้พระเณรได้รับความเดือดร้อน
มีพระผู้ใหญ่ท่านไม่สบาย ตนก็จะนำกับข้าวไปส่งไว้หน้ากุฏิพระ แต่นายจิกมักจะไปขโมยเอามากินอยู่ตลอด แถมยังขู่พระว่า “ถ้าไม่กลัวบาปตนเองจะตีพระแล้ว” เพราะคิดว่าพระไปขโมยสิ่งของเขา อยากให้ตำรวจนำตัวนายจิกออกไปให้พ้นจากวัด เพราะชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดจะได้สบายใจ อีกทั้งเกรงว่าหากนายจิกเกิดอาการคุ้มคลั่งขึ้นมา จะทำร้ายพระและชาวบ้าน
เบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายจิกไปโรงพัก ทำการประวัติเอาไว้ พร้อมกับว่ากล่าวตักเตือน ไม่ให้เข้าไปอยู่ในวัดอีก เพราะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับพระ แล้วทำการปล่อยตัวให้กลับบ้านไป