หวั่นไม่ปลอดภัย ชาวบ้านแจ้งตำรวจเข้าช่วยเหลือเด็ก 4 เดือน จากพี่เลี้ยง 2 ผัวเมียป่วยจิตเวช หลังทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 14 พ.ค. 2568 พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผกก.สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ชุมชนซอยกรุงเทพฯ ผลิตเหล็ก ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ว่ามี 2 ผัวเมียทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยมาก และในบ้านก็มีเด็กเล็กอายุประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งเป็นห่วงกลัวจะได้รับอันตราย เนื่องจาก 2 ผัวเมียนี้มีอาการป่วยทางจิตเวชและใช้ยาเสพติด

จุดเกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวไม่มีเลขที่ โดยภายในบ้านอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ นายมีน (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี, น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี และ น้องซี อายุ 4 เดือน ซึ่ง 2 ผัวเมียได้รับเลี้ยงน้องซีตั้งแต่อายุได้แค่ 1 เดือน เนื่องจากแม่แท้ๆ ได้หายไป น้องซีเลยอยู่กับ 2 ผัวเมียนี้ โดยทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ บางทีก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง จนทำให้ชาวบ้านบริเวณนั้นเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องซี

กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ค. ชาวบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกันและมีเสียงเด็กร้อง จึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณ์ในขณะที่ น.ส.เอ ซึ่งป่วยเป็นจิตเวชกำลังเอะอะโวยวายและด่าทอสามีอยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านหวั่นเกรงว่าเด็กจะไม่ปลอดภัยหรือได้รับอันตราย จึงพากันเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ

สำหรับคลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกได้ จะเห็นว่าฝ่ายสามีกำลังอุ้มเด็กชายอยู่ในอ้อมอก โดยมีภรรยายืนด่าทอโวยวายด้วยถ้อยคำหยาบคายใส่ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.สำโรงใต้ เดินทางมาถึง พร้อมประสานรถพยาบาลเทศบาลปู่เจ้าสมิงพรายมารับตัวเด็กไปดูแลเบื้องต้น และประสานเจ้าหน้าที่ พม. มารับตัวเด็กไปดูแลแล้ว

...

จากนั้น ฝ่ายสืบสวนของ สภ.สำโรงใต้ ได้เชิญตัวสองสามีภรรยาที่ปรากฏในคลิปมายัง สภ.สำโรงใต้ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า กรณีดังกล่าวมาจากปัญหาครอบครัว ซึ่งบิดาแท้ๆ ของเด็กได้เลิกรากับแม่ของเด็กไป จนกระทั่งแม่ของเด็กไปมีสามีใหม่ แล้วสามีใหม่ดันมาติดคุก แม่แท้ๆ จึงนำเอาเด็กคนนี้มาฝากให้กับสองสามีภรรยาเลี้ยงดู

หลังจากเลี้ยงได้ไม่กี่เดือน แม่แท้ๆ ก็หายตัวไปโดยไม่ทราบว่าไปอยู่ไหน และปล่อยให้เด็กอยู่ในความดูแลของสองสามีภรรยาคู่นี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เลี้ยงดูแลเด็กมาอย่างดี กระทั่งมาช่วงหลังฝ่ายภรรยาขาดยารักษาอาการทางจิต จึงเกิดการคลุ้มคลั่งและด่าทอสามี

ส่วนวันเกิดเหตุฝ่ายภรรยาใช้ให้สามีไปชงนมให้เด็ก แต่ทางสามีชงนมช้าไม่ทันใจทำให้ภรรยาเกิดความโมโหและจะทุบตีสามีในขณะที่สามีอุ้มเด็กอยู่ที่อ้อมอก จึงทำได้แต่คอยหันตัวหลบเพื่อไม่ให้โดนตัวเด็ก กระทั่งมีชาวบ้านเข้ามาช่วยและแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการตรวจสอบตามร่างกายของเด็กไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกตีหรือถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

ทางด้าน นายมีน (นามสมมุติ) เล่าว่า เรื่องเงินเลี้ยงดูเด็กคนนี้ตนไม่มีปัญหาเพราะทำงานได้ แต่ที่เกิดเรื่องเพราะว่าเมียตัวเองนั้นใช้ให้ไปชงนม แต่ตนไปชงนมช้าไม่ทันใจ เมียจึงทุบตีตนขณะกำลังอุ้มเด็กอยู่ จึงหลบฝ่ามือเมีย หลบไปหลบมาทำให้เด็กลื่นหลุดจากมือตกกระแทกพื้น ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายหรือโยนเด็กแต่อย่างใด อีกทั้งรักและเลี้ยงดูอย่างดี ยอมรับว่าตนและภรรยาป่วยเป็นจิตเวชแต่ตนเองเข้ารับการรักษาและทานยาต่อเนื่องจนอาการดีขึ้น ส่วนภรรยาไม่ยอมทานยาจนเกิดอาการคุ้มคลั่ง

ทั้งนี้ ยืนยันว่าทั้งตนและภรรยาไม่เคยตีเด็ก ที่ผ่านมารักเด็กแต่ที่ภรรยาโมโหเพราะตนทำไม่ทันใจเขาเวลาเขาใช้ทำอะไร ตนอยากให้ภรรยากลับมารักษาและกินยาต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเลี้ยงดูเด็กอย่างดีมาตลอด แต่พอเกิดปัญหาที่ภรรยาขาดยา ใจนึงก็รักและผูกพันกับเด็ก แต่ก็ขอให้เด็กไปอยู่กับคนอื่นที่พร้อมกว่านี้ เพื่อดูแลเด็กได้ดีกว่านี้ เพราะถ้าภรรยาขาดยาก็จะเกิดอาการเช่นนี้อีก

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัวทั้งผัวเมียคู่นี้ไว้ในความดูแลก่อน จากนั้นจะส่งตัวเข้าบำบัดรักษาอาการทางจิตตามประวัติของโรงพยาบาลต่อไป ส่วนเด็กขณะนี้ปลอดภัยดีและอยู่ในความดูแลของ พม. จังหวัดสมุทรปราการ.