อุบัติเหตุสลด รถกู้ภัยขับฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของพนักงานสาวนิคมอุตสาหกรรมลำพูนเสียชีวิตคาที่ ทำลูกสาววัย 7 ขวบกลายเป็นเด็กกำพร้า วอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

จากเหตุสลดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 6 พ.ค. 68 ร้อยตำรวจเอก สุพจน์ หาญขว้าง รับแจ้งอุบัติเหตุบริเวณสี่แยกไฟแดงดอยติ ถนนสายลำปาง–เชียงใหม่ เขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เหมืองจี้ จ.ลำพูน รถกู้ภัยของหน่วยงานหนึ่งเปิดไซเรนวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ฝ่าสัญญาณไฟแดง ก่อนพุ่งชนรถจักรยานยนต์และรถยนต์หลายคัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 4 ราย และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย

โดย 1 ในผู้เสียชีวิตคือ นางกมลรัตน์ อายุ 45 ปี พนักงานบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมลำพูน ขณะขี่จักรยานยนต์กลับบ้านพักในบ้านน้ำพุ ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน โดยมีหลักฐานจากการสอบสวนว่า ขับรถตามสัญญาณไฟเขียวตามปกติ ก่อนถูกรถกู้ภัยฝ่าไฟแดงชนอย่างจังจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายกมล สามีของผู้เสียชีวิต เปิดเผยด้วยน้ำตาคลอว่า ทุกคืนเขาจะขี่รถไปรอรับภรรยาที่ปากทางเข้าบ้าน เนื่องจากเป็นทางเปลี่ยว วันเกิดเหตุรอนานผิดปกติและโทรศัพท์ก็ไม่รับสาย กระทั่งทราบข่าวร้ายว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว พร้อมเผยความห่วงใยถึงลูกสาววัย 7 ขวบ “น้องต้นข้าว” ที่ยังไม่รู้ว่าแม่จะไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว

...

ล่าสุด วันนี้ (7 พ.ค. 68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านน้ำพุหมู่ 7 ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวกมลรัตน์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยได้นำศพมาบำเพ็ญกุศลในบ้านตามประเพณี

โดยนางสาวกัญญาภัค ผู้เป็นน้องสาวคนตาย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เหมืองจี้ เพื่อเอาผิดกับทางมูลนิธิ ซึ่งขับขี่รถด้วยความเร็วและประมาท เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ภายหลังเกิดเหตุ ได้มีตัวแทนมูลนิธิฯ เข้ามาแสดงความรับผิดชอบ เรื่องของโลงศพและอาหารเครื่องดื่มไว้เบื้องต้น ส่วนเรื่องคดีความ ปล่อยให้เป็นการรับผิดชอบของคู่กรณี ทั้ง 2 ฝ่ายไม่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ญาติยังติดใจ และจะขอเข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีในวันรุ่งขึ้น เพื่อขอให้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป

ขณะเดียวกัน ด้านนางสมควร อายุ 70 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนมีลูกด้วยกัน 3 คน และผู้เสียชีวิตคนดังกล่าวเป็นคนที่ 2 แต่งงานมีครอบครัว และมีลูกสาวอีก 1 คนอยู่ชั้น ป.5 วันนี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่หลานต้องกำพร้าแม่ และอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ตอนนี้แม่ยังพูดอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ยังอยู่ในระหว่างเสียใจ.