คืบหน้าเหตุหนุ่ม 28 ปี ถูกกระสุนปริศนายิงเข้ากลางหลัง ล่าสุด ตำรวจจับมือยิงได้แล้ว ยังเหลือผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คาดปมเรื่องชู้สาว อ้างโกรธแค้นที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่

จากกรณีเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายสิทธิโชค อายุ 28 ปี เป็นชาวตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เหตุเกิดบริเวณถนนเรียบคลองชลประทาน นิคมซอย 2 – เครือซูด ตำบลหนองครก อำเภอเมืองฯ จังหวัดศรีสะเกษ โดยผู้บาดเจ็บถูกยิงที่กลางหลังกระสุนฝังใน อาการสาหัส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตศรีสะเกษธรรมสถาน ได้เร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : หนุ่ม 28 ไปส่งเพื่อนสาว ขากลับถูกกระสุนปริศนายิงกลางหลังตกคลอง เจ็บสาหัส)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ โดย พ.ต.อ. นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมี 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย เป็นมือปืน ทราบชื่อคือ นายวนวุฒิ หรือ ฟิล์ม อายุ 22 ปี ส่วนผู้ต้องหาอีกราย ทราบเพียงชื่อเล่นว่า ก้อง เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัว

...

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ในเบื้องต้นให้การว่า ปมเหตุมาจากเรื่องชู้สาว โดยผู้บาดเจ็บไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่ของ นายก้อง (ผู้ต้องหาที่ยังจับตัวไม่ได้) ซึ่ง นายก้อง โกรธแค้นจึงได้ชวน นายฟิล์ม (ผู้ต้องหาที่จับได้แล้ว) มาวางแผนลวง นายสิทธิโชค (ผู้บาดเจ็บ) มายิงด้วยการใช้เฟซบุ๊กแฟนของ นายฟิล์ม มาแชทคุยให้ออกมาข้างนอก พอมาถึงที่เกิดเหตุ นายก้อง และ นายฟิล์ม ได้ใช้รถจักรยานยนต์ขับปาดหน้ารถจักรยานยนต์นายสิทธิโชค (ผู้บาดเจ็บ) จนตกคลองก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กลางหลังแล้วหลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาให้กับ นายวนวุฒิ หรือ ฟิล์ม ว่า พยายามฆ่า และมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ก่อนจะได้ตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วน นายก้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน โดยคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

ด้านอาการผู้บาดเจ็บ ล่าสุด อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งหลังจากอาการดีขึ้น และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว จะได้เชิญตัวมาให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง.