ทหารไทยตรึงกำลังเข้มชายแดนไทย-ลาว ตั้งแต่บริเวณผาตั้ง ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน และภูชี้ฟ้า หลังเกิดเหตุกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกโจมตีฐานทหาร สปป.ลาว หลายระลอกและหลายพื้นที่ เสียงปืนดังสนั่นข้ามแดน แถมหัวกระสุน 7.62 มม. ตกทะลุหลังคาบ้านฝั่งไทย ด้านนายอำเภอเวียงแก่นร่อนหนังสือสอบถาม “เมืองปากทา” แจ้งกลับมาว่าขณะนี้เป็นเหตุภายในประเทศ หากสถานการณ์คลี่คลายจะแจ้งมาอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 4 พ.ค. 68) กกล.ผาเมือง ได้รับรายงานจาก ฉก.ทพ.31 ว่าได้เกิดการใช้อาวุธปืนยิงปะทะกันของ ทปล. (ร้อย.ทด.125) กับกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายอย่างหนักทั้งปืนใหญ่ ปืนยาว และระเบิด ด้านตรงข้าม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ตลอดทั้งคืนถึงเช้า เป็นผลให้ทหาร สปป.ลาว เสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ต่อมาเวลา 06.00 น. ทหาร สปป.ลาว มีการเสริมกำลังเพิ่มขึ้นอีก 40 นาย เดินทางไปฐานปฏิบัติการ บก.ร้อย.ทปล.ทด.125 พิกัด PC 605 023 ทั้งอาวุธหนักและรถหุ้มเกราะ จำนวน 2 คัน รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 3 คัน ภายหลังการประชุมวางแผน กำลังพล 20 นาย พร้อมรถหุ้มเกราะ จำนวน 1 คัน และรถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน ได้เคลื่อนย้ายกำลังออกจากฐานฯ บก.ร้อย.ฯ ไปตามเส้นทางตลอดริมแม่น้ำโขง ขึ้นไปลาดตระเวนยิงกราดอาวุธเคลียร์พื้นที่ บริเวณจากฐานฯ ทปล.ทด.125 ไปตามเส้นทางพื้นที่โดยรอบ

...

ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้เคลื่อนย้ายรถหุ้มเกราะ และรถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายกำลังพลออกลาดตระเวนด้วยการยิงอาวุธปืนเคลียร์เส้นทางผ่าน เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ส่งเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 ลำ ลงจอดบริเวณบ้านหาดสระ เมืองปากทา พิกัด PC 658 039 เพื่อแสตนบายอยู่

เวลา 12.40 น. มีการส่งรถหุ้มเกราะ จำนวน 1 คัน ออกจากบริเวณฐานฯ บก.ร้อย. คาดว่าเดินทางไปส่ง สป. ให้กับกำลังพลบนฐานฯ และทหาร สปป.ลาว อีกจำนวน 5 - 7 นาย ออกลาดตระเวนอีกด้าน ทำการยิงปืนกล และได้ยินเสียงระเบิดเป็นห้วงๆ ห่างกันประมาณ 30 นาที แต่ไม่มีการยิงตอบโต้จาก กกล. ไม่ทราบฝ่าย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.ผาเมือง ได้เพิ่มกำลังเสริมอีก 1 ชุดปฏิบัติการ ตรึงชายแดนไทย-ลาว บริเวณช่องทางผาบ่อง พิกัด PC 592 046 และออกสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ถูกลูกกระสุนปืน 7.62 ตกลงบนหลังคาได้รับความเสียหาย เป็นบ้านของ นางพิมพ์ใจ อนุชิตวรการ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 107 ม.15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ขณะนี้กำลังทหารพราน กกล.ผาเมือง ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 4 พ.ค. 68 ทหารพราน ทพ.3104 กกล.ผาเมือง ที่ฐานปฏิบัติการ บ.ร่มฟ้าผาหม่นฯ ออกตรวจตามแนวชายแดน ได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนขึ้นเป็นระยะๆ ดังขึ้นทางฝั่ง สปป.ลาว และดังขึ้นอีกหลายครั้งเป็นห้วงๆ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ากำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายยิงใส่ฐานฯ ทปล. และเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายครั้งเป็นระยะๆ หลายจุด เช่นที่

1. บ.เชียงตอง ม.ปากทา แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว

2. ฝั่ง สปป.ลาว ตรงข้าม บ.ผาบ่อง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

3. ฝั่ง สปป.ลาว ตรงข้ามภูชี้ดาว ต.ปอ อ.เวียงแก่น

โดยได้ยินเสียงปืนปะทะกันเป็นระยะๆ ด้านตรงข้าม บ.ผาตั้ง ฯ ห่างออกไปประมาณ 1-2 ก.ม. เจ้าหน้าที่ กกล.ผาเมือง ได้เฝ้าระวังสังเกตการณ์อยู่ในพื้นที่ 4 จุด ที่ ภูชี้ดาว, ภูชี้เดือน, บ.ผาตั้ง และภูชี้ฟ้า

...

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากความมั่นคงไทย ว่าจากการปะทะกันในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณตรงข้าม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ชุดปฏิบัติการ ทพ.3104 ได้ตรึงกำลังชายแดนไทย-ลาว บริเวณผาบ่อง และสำรวจบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับแจ้งว่ามีกระสุนปืน 7.62 ตกทะลุหลังคาบ้านชาวบ้าน

นายสุพจน์ ลังกาวีระ นายอำเภอเวียงแก่น กล่าวว่า ในช่วงเช้าได้รับรายงานว่ามีกระสุนตกที่หลังคาบ้าน นางพิมพ์ใจ อนุชิตวรการ ชาวบ้านร่มฟ้าผาหม่น ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ขณะนี้ได้สั่งหมู่บ้านให้จัดชุดเวรยามเฝ้าระวัง และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเวียงแก่น และฝ่ายความมั่นคง ทพ.3104 เฝ้าตรึงกำลังบริเวณชายแดนตั้งแต่ผาตั้ง ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน และภูชี้ฟ้า

“กรณีลูกกระสุนตกหลังคาบ้านฝั่งไทย ทางอำเภอเวียงแก่นได้ทำหนังสือสอบถามไปทางเมืองปากทา เขาแจ้งว่าขณะนี้เป็นเหตุภายในประเทศ หากสถานการณ์คลี่คลายจะแจ้งมาอีกครั้ง” นายอำเภอเวียงแก่นกล่าว

ร.อ.สัญญา จันจี รักษาการ หน.สถานีเรือเชียงของ กล่าวว่า ได้จัดชุดลาดตระเวนทางน้ำในพื้นที่เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยริมฝั่งโขง และจุดปะทะและใกล้เคียง

...

รายงานข่าวในพื้นที่กล่าวว่า การปะทะกันเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 3 พ.ค. มีการโจมตีฐานของทหารบริเวณภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว มีการปะทะกันที่บริเวณบ้านเชียงตอง เมืองปากทา และตรงข้ามผาบ่อง และตรงข้ามภูชี้ดาว อ.เวียงแก่น เบื้องต้นทราบว่ามีนายทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 2 นาย เป็นระดับหัวหน้า 1 นาย ถูกซุ่มโจมตีขณะนำรถเข้าไปยังที่เกิดเหตุ และยังมีทหารหลายนายที่ติดอยู่ที่ฐานที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ และการปะทะยังต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 4 พ.ค. ในช่วงเช้า การปะทะครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงมีทั้งอาวุธหนักเบา ทหารลาวมีความพยายามเปิดทางนำผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่ปะทะ ใช้ทั้งรถหุ้มเกราะ และเฮลิคอปเตอร์ และมีการลาดตระเวน ตรึงกำลังตั้งแต่บ้านหาดสระ บ้านก้อนตื้น บ้านปากคอบ ตลอดแนวแม่น้ำโขง สถานการณ์ค่อนข้างอยู่ในความตึงเครียด ทหารบาดเจ็บบางส่วนสามารถนำมารักษาได้ แต่บางส่วนยังติดค้างอยู่ในพื้นที่