"กัน จอมพลัง" เข้าเยี่ยมลุง-ป้า ส่วนคู่กรณี ถ้าหากอยากจะช่วยจริงๆ ก็ยินดี พร้อมเปิดทางให้ พร้อมฝากถึง "เต้ มงคลกิตติ์" บอกไม่ต้องเป็นห่วงผม อยากให้ไปดูแลโซนพระราม 7 เดี๋ยวผมจัดการตรงนี้เอง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 เม.ย. 68 ที่โรงพยาบาลบางประกอก-รังสิต 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" เดินทางมาเยี่ยมลุงกับป้าขับรถกระบะ คู่กรณีของ นายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช หลีนวรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ต.ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพราะลุงก็ยังอาการสาหัส ป้าก็ยังบาดเจ็บ


โดย กัน จอมพลัง ยอมรับว่า เมื่อคืนนี้ได้คุยกับทางครอบครัวของลุงกับป้าเรื่องค่ารักษาพยาบาลแล้ว ก็รู้สึกสงสาร เพราะตอนนี้ทราบว่าค่ารักษาพยาบาลก็พุ่งไปมากกว่า 134,000 บาทแล้ว ทางครอบครัวเองก็ลำบาก เขาก็คุยกันว่าจะไปหากู้เงินมาจ่าย ประกอบกับทางคู่กรณีเองก็ยังไม่ให้ความชัดเจนเป็นรูปธรรม และยังไม่มีการพูดคุยกับทางครอบครัวว่าจะช่วยเหลืออย่างไร หรือแนวทางไหนบ้าง

ตัวเองจึงตัดสินใจช่วยเหลือ ใช้เงินส่วนตัวออกไปจ่ายให้ 47,697 บาท และเงินจากมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้อีก 26,608 บาท นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ พ.ร.บ. ช่วยลุงป้าอีก ยอด 60,000 บาท (คนละ 30,000 บาท) ช่วยเหลือทางครอบครัวด้วย พร้อมทั้งทางโรงพยาบาลเอง ก็พร้อมยินดีช่วยเหลือหลังจากนี้

...

โดยตัวเองเพิ่งชำระเงินไปเมื่อช่วงเวลา 11 โมงเช้า แต่ก็ปรากฏว่าคู่กรณีเดินทางมาขอจ่ายเงินหลังจากนั้น ซึ่งตัวเองคาดว่าวันอื่นๆ หากจะมาจ่ายให้ ก็ดีเหมือนกัน เพราะมันก็แสดงถึงความกระตือรือร้น ซึ่งตัวเองก็เพิ่งจะรู้ไม่นานมานี้ว่าเขามา ส่วนเรื่องจดหมาย มองว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด

กัน จอมพลัง ยังบอกอีกว่า ฝากไปถึงคู่กรณี ถ้าหากอยากจะช่วยจริงๆ ตัวเองก็ยินดี พร้อมเปิดทางให้ ไม่ได้ติดอะไร ไม่ได้ปิดโอกาส แค่อยากให้ท่านแสดงการรับผิดชอบ ว่าจะรับผิดชอบส่วนไหน อย่างไรบ้าง อยากให้มาหาทางออกทางออกร่วมกัน อยากให้ครอบครัวลุงป้าสบายใจ ไม่ใช่มาเอาภาพเพื่อการลดโทษ

ส่วนตัวเชื่อว่าถ้ามีการพูดคุยเรื่องทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาติดอะไร รวมไปถึงเรื่องรถกระบะที่เสียหาย หากเป็นตัวเองคงซื้อรถกระบะให้ใหม่ เพราะการซ่อมก็คงไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อเรื่องการช่วยเหลือเรื่องรถเลย

โดยทางครอบครัวเองก็ยังมีคำถามที่ยังติดใจ และอยากได้คำตอบ เช่น ถ้าลุงหยุดรถ คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขายังคิดแบบนี้อยู่หรือไม่ และหลังเกิดเหตุ ทำไมถึงไม่เรียกรถพยาบาล ทั้งๆ ที่มีคนบาดเจ็บสาหัส แถมยังมีการเหยียดอีกด้วย

เมื่อถามถึง "เต้ มงคลกิตติ์" ในประเด็นที่โพสต์ว่า "ฝากถึงน้องกัน จอมพลัง ถอยเถอะน้อง นายใหญ่สั่งพี่ชายนายมาแล้ว นายไม่ถอย มัวเชื่อเอฟซีมาก จำบทเรียนของทนายตั้มไว้ เคยดังขีดสุด เอฟซีก็ช่วยไม่ได้นะ คดีจะมาเพียบ" นั้น

เรื่องนี้ กัน จอมพลัง ตอบว่า "ผมรู้ว่าพี่ชายรู้จักนิสัยผมดี รู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร และพี่ชายก็รู้จักนิสัยผมดีมาก ขอบคุณคุณเต้ที่ออกมาพูด อาจจะเป็นห่วงผม แต่อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงผม อยากให้พี่เต้ไปดูแลโซนพระราม 7 เดี๋ยวผมจัดการตรงนี้เอง"

ส่วนพี่ชายที่ว่า ก็ยอมรับว่า ก็ได้คุยกันจริง พี่ชายเขาเป็นห่วง ตัวเองก็ได้ฝากพี่ชายกลับไป ว่า "ผมทำเพื่อประโยชน์ของเคส ถ้าหากเคสยังไม่ได้รับการเยียวยา ผมก็จะช่วยจนจบ อยากให้เข้าใจว่าครอบครัวเขาจะรู้สึกอย่างไร และผมก็ได้ฝากกลับไปด้วยเช่นกันว่า อย่าให้เขาปากแจ๋ว" พร้อมยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้พูดหรือทำให้ผิดเป็นถูก เขาถามเพื่อหาแนวทางออกของเรื่องนี้ ด้วยความรักและความเป็นห่วง พร้อมแนะนำหาทางออก

ส่วนกรณี สป.สายไหม ที่โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึงตน มองว่าเป็นแค่เด็กน้อย คนละเบอร์กัน ตนไม่ได้สนใจ เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตอนนี้สังคมได้เข้าไปตอบคอมเมนต์แทนหมดแล้ว และวันนี้ก็อยากโฟกัสที่เคสและฝั่งคู่กรณีว่าจะมาเยียวยาหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานตนก็เจอกับเฮียเบี้ยว ก็ถือว่าผู้ใหญ่คุยกัน ส่วนเด็กน้อย ไม่ใช่เวทีของเขา พร้อมเล่านิทานเรื่องหนึ่งว่า

...

"เมื่อหลายปีก่อนตนประสานตำรวจ สภ.ลำลูกกา ให้เข้าไปจับบ่อนในพื้นที่ ตำรวจใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เข้าไปดำเนินการให้ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันมีผู้ใหญ่คนหนึ่งพาหมาน้อยมาร้องไห้ มุแง มุแง ขอเคลียร์และขออนุญาตเปิดบ่อน ซึ่งตนไม่รับและไล่กลับไป หากครั้งนี้ถ้าตนจะสวนกลับอีกก็อย่าร้องไห้เหมือนครั้งแรกอีก"

ด้านลูกชายลุงและป้าไม่ได้เรียกร้องให้ซื้อรถคันใหม่ให้ แต่จะรอดูความรับผิดชอบจากคู่กรณี.