ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท เลขาธิการสมาคมเพศวิถีศึกษา เปิดเผยว่า ต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา สมาชิกเครือข่ายต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศประเทศไทย ประกอบด้วย องค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานช่วยเหลือผู้ถูกกระทำรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ 10 องค์กร ได้ยื่นเรื่องริเริ่มเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ฉบับภาคประชาชนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร มีผู้แทนสำนักงานเลขาธิการสภาฯรับเรื่อง ทั้งนี้ เครือข่ายเห็นว่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน มีจุดต้องแก้ไขหลายประการ ที่สำคัญคือหลักการกฎหมายเน้นรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวแทนที่ จะให้ความสำคัญสูงสุดกับการคุ้มครองสวัสดิภาพความปลอดภัยและการพื้นฟูเยียวยาผู้เสียหายที่ถูกกระทำรุนแรง ผลที่ตามมาคือ ขาดมาตรการที่จะเอาผิดกับผู้กระทำอย่างจริงจัง ทั้งยังเปิดช่องสนับสนุนให้ไกล่เกลี่ยเพื่อยอมความ โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขให้รัดกุมและคำนึงถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้เสียหาย กลายเป็นความลักลั่นการบังคับใช้กฎหมาย แม้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เสนอร่างแก้ไข

ซึ่งผ่านความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่เป็นการปรับแก้รายมาตราในประเด็นย่อย ขณะที่เรามองว่ากฎหมายฉบับนี้ต้องถูกรื้อและยกเครื่องใหม่ โดยเน้นให้รัฐต้องเอาผิดกับผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัวอย่างจริงจัง และมีมาตรการรอบด้านในการคุ้มครองสวัสดิภาพและฟื้นฟูเยียวยาผู้เสียหาย เราจึงริเริ่มร่าง พ.ร.บ.
ฉบับภาคประชาชนขึ้น และเตรียมล่า 20,000 รายชื่อเสนอร่างกฎหมาย ต่อสภาฯ

ขณะที่ น.ส.บุษยาภา ศรีสมพงษ์ ทนายความด้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ และผู้ก่อตั้งองค์กรชีโร่ (SHero Thailand) กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับภาคประชาชนมีเป้าหมายสร้างระบบคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวที่ครอบคลุมรอบด้าน โดยไม่ผลักภาระให้ผู้เสียหายต้องยอมความเพื่อรักษาครอบครัวทั้งที่ยังมีความเสี่ยงถูกกระทำซ้ำเพราะความรุนแรงในครอบครัวคืออาชญากรรมที่มีรากฐานจากโครงสร้างอำนาจที่ไม่เท่าเทียม.

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่