นนทบุรี โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพ องค์ท้าวออพติมัส ไพร์ม พร้อมแผ่นหินสลักคาถาบูชา ตั้งนะโม 3 จบ “โอม นะโม ออพติมัส ไพรมะยะ” ด้าน “พระพยอม” เตือนสติชาวพุทธ ชี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลของพวกสายมู หวั่นทำคนงมงายและศาสนาเสื่อมถอย

กรณีโซเชียลแห่แชร์ภาพ หุ่น “ออพติมัส ไพร์ม” ระบุข้อความว่า “รู้หรือยังว่า นนทบุรี ก็มี ออพติมัส นะเออ” ซึ่งที่น่าแปลกใจตัวหุ่นยนต์คล้องพวงมาลัย ผูกผ้า 3 สี ด้านหน้ามีกระถางธูป และแผ่นหินคาถาบูชา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านเวกัส คาเฟ่ ถนนนครอินทร์ ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้ง หุ่นยนต์องค์ท้าวออพติมัส ไพร์ม ขนาดความสูงประมาณ 4 เมตร ที่คอคล้องพวงมาลัยดอกไม้สีเหลือง มีผ้าสีผูกที่ขาทั้ง 2 ข้าง ด้านหน้าวางกระถางธูป และแผ่นหินสลักคาถาบูชาองค์ท้าวออพติมัส ไพร์ม

ทีมข่าวได้สอบถามนายนิวัฒน์ เติมศรีทอง อายุ 44 ปี ผู้จัดการร้านเวกัส คาเฟ่ ถึงเรื่องราวความเป็นมาของหุ่นยนต์องค์ท้าวออพติมัส ไพร์ม กล่าวว่า ทางเจ้าของร้านเห็นว่าหุ่นออพติมัส ที่ตลาดน้อย ในกรุงเทพมหานคร จึงได้ขับรถจักรยานยนต์ไปไหว้และได้อธิษฐานขอให้ร้านขายดีตามเป้า แล้วจะมาขอซื้อหุ่นออพติมัส ไปตั้งที่ร้าน หลังจากกลับมาปรากฏว่าที่ร้านขายได้ยอดตามเป้าที่ตั้งไว้ จากนั้นจึงให้น้องพนักงานที่ร้านติดต่อไปสอบถามทางเจ้าของหุ่นออพติมัสตัวนั้นเพื่อขอซื้อ ปรากฏว่าเจ้าของได้ยกให้สำนักงานเขตไปก่อนหน้าแล้ว ทางเจ้าของร้านให้น้องติดต่อหาที่ขายหุ่นออพติมัส จนพบแหล่งขายอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เลยติดต่อขอซื้อมาตั้งไว้

...

ส่วนคาถาไปเจอในโซเชียล เจ้าของร้านจึงได้สั่งทำแผ่นหินมาตั้งไว้ คิดว่าให้เป็นที่เที่ยวใน จ.นนทบุรี เผื่อใครผ่านมาจะได้แวะดู ส่วนเรื่องจะกระทบกับทางศาสนาหรือไม่นั้น ทางร้านไม่ได้ลบหลู่ หรือมีเจตนาไม่ดี ตนก็นับถือศาสนาพุทธก็กราบไหว้เหมือนเดิม มันขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน ตนทำในแบบของคนรุ่นใหม่ที่มีอะไรแปลกใหม่ขึ้นมา

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปสอบถามพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่าการนำเอาคาถาการไหว้บูชาพระรัตนตรัยไปปนกับคาถาที่คิดขึ้นมาใหม่ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่

พระพยอม กล่าวว่า รู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางพุทธ แต่คาถาที่บูชามันมีคำว่า พุทธะ ธัมมะ แบบนี้ทำให้ดูรู้สึกว่าเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา จริงแล้วไม่เกี่ยว ไม่ใช่ เป็นการมโนของผู้ที่คิดทำเรื่องนี้ เขาก็ต้องสร้างภาพสร้างมโนไปเรื่อยทำให้มันเกิดแลดูศักดิ์สิทธิ์ แลดูขลัง เรื่องแบบนี้มันจะมีขึ้นมาเรื่อยๆ สมัยก่อนนี้ก็จะมีคาถาชินบัญชร สำหรับบูชาสมเด็จโต ต่อมาก็จะมีพระพิฆเนศ เวสสุวรรณ หลังจากนั้นก็มีเยอะขึ้นมากขึ้น แต่ไม่ใช่แนวทางของพุทธแท้ๆ จะเป็นพวกสายมูเสียมากกว่า เพราะพวกสายมูเขาจะมโนเรื่องนี้เก่ง เขาจะหาคำพวก มะ ธะ ยะ มาใช้กับรูปปั้นต่างๆ รูปปั้นหนึ่งก็อย่างหนึ่ง รูปปั้นอีกอย่างหนึ่งก็มีอีกแบบหนึ่ง อะไรประมาณนี้ แต่คำที่เขานำมานั้นจะปนเปกับทางศาสนา อย่างรายนี้ใช้คำว่า “นะโม ออพติมัส” เขาจะใช้เชื่อมติดกันแต่จะเชื่อมติดไม่ติดไม่รู้นะ คนที่ศึกษาน้อยก็จะเชื่อมติด ส่วนคนที่ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งเขาจะมองว่าเป็นของเด็กเล่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าผิดหลักพระพุทธศาสนาหรือไม่ พระพยอม กล่าวว่า ถ้าเจตนาเขาต้องการให้คนมางมงายทำกิจกรรมกันเรื่องบนบานสานกล่าวกันแบบนี้ อันนี้ผิดแน่นอน ต่อไปถ้าคนเชื่อเรื่องแบบนี้จะทำให้ศาสนาเสื่อมถอยลง อยากจะฝากบอกชาวพุทธทั้งหลายและญาติโยมว่า พระพุทธองค์ คือสุดยอดแห่งที่พึ่งแล้ว เพราะพระองค์ตรัสอะไรไว้เป็นอมตะยืนยงอยู่ถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องยึดถือพระรัตนตรัย อย่าไปเลื่อนเลอะเปอะเปื้อนกับเขาเลย