บุรีรัมย์ คดีสาวคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ข้ามเลนพุ่งชน 2 ศพ รอง ผกก.โรงพักสตึก ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เตรียมเรียกคนขับรับทราบข้อหา ขับรถโดยประมาทฯ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนเรื่องคลิปนาทีเกิดเหตุที่หายไป ไม่มีผลในทางคดี ขณะที่ญาติยอมรับยังคาใจ ด้านผู้ใหญ่บ้านไม่เชื่อขับมา 70-80 กม./ชม. เพราะไร้รอยเบรก ตั้งข้อสังสัยมีกุนซือคอยให้คำแนะนำอยู่เบื้องหลังหรือไม่อย่างไร
จากกรณีอุบัติเหตุที่ จ.บุรีรัมย์ สาวคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ข้ามเลนพุ่งชนสองพี่น้อง 9 ปีกับ 13 ปีเสียชีวิตทั้งคู่ โดยออกมาโต้ว่า ลูกไม่ได้เล่นพวงมาลัยตามข่าว ยันลูก 2 ขวบนั่งคาร์ซีท ช่วงเกิดเหตุตนขับรถด้วยความเร็วเพียง 70-80 กม./ชม.เท่านั้น บริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้งนิดๆ พร้อมเยียวยาผู้สูญเสียเต็มที่ คาดจะได้ทั้งเงินประกัน พ.ร.บ. และเงินประกันภาคสมัครใจไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ขณะยายเด็กยอมรับหนักใจเรื่องคดี โอดเพราะเราเป็นคนจน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (หนังคนละม้วน สาวขับฟอร์จูนเนอร์ โต้ลูกไม่ได้เล่นพวงมาลัย ยันนั่งคาร์ซีท วงจรปิดหาย)
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนางทองจันทร์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของน้องมันนี่ อายุ 13 ปี และน้องนะโม อายุ 9 ปี บรรยากาศทั่วไปยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีชาวบ้านที่มาร่วมงานเกิดอาการคล้ายผีเข้า คล้ายกับเด็กทั้งสองที่เสียชีวิตไปมาเข้าเล่าเรื่อง แต่จับใจความไม่ค่อยได้
โดยเฉพาะนายคมสันต์ วางาม อายุ 39 ปี พ่อน้องนะโม อายุ 9 ขวบ เล่าว่า ตนทำงานอยู่ต่างจังหวัด หลังทราบข่าวได้เดินทางมาทันที เท่าที่เห็นญาติของคนขับรถได้มาดูแลในงานศพเป็นอย่างดี
...
ตอนนี้ตนยังคาใจเหมือนที่ชาวเน็ตมาคอมเมนต์ใต้ข่าวว่า เหตุการณ์วินาทีสำคัญที่กล้องหน้ารถบันทึกภาพไปอยู่ไหน ทั้งที่เป็นรถหรูตัวท็อป เพราะกล้องหน้ารถสำคัญมากกว่าการให้การด้วยวาจา กล้องหน้ารถมีทั้งเสียงการพูดคุย และภาพก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ ฝากถึงตำรวจให้ตรวจสอบหรือค้นหาภาพจากกล้องหน้ารถมาเป็นหลักฐานด้วย
นายคมสันต์กล่าวด้วยว่า กรณีที่คนขับรถออกมาพูดว่าลูกไม่ได้เล่นพวงมาลัยตามข่าว จริงแล้วลูก 2 ขวบนั่งอยู่คาร์ซีท เหตุเกิดเพราะหันไปดูด้านหลังรถ ทำให้รถเสียหลัก ส่วนตัวที่ฟังจากชาวบ้านหลายคนที่ไปดูที่เกิดเหตุ ต่างคนต่างได้ยินเหมือนกันว่า "ลูกเล่นพวงมาลัย"
ส่วนหนึ่งก็อยากจะฝากถึงคนที่เข้ามาคอมเมนต์กล่าวหาตนว่าไม่ได้ดูแลลูก แต่กลับมาเอาเงินประกันลูกนั้น ตนขอยืนยันว่าที่ผ่านมาดูแลลูก ส่งเงินมาให้แม่เป็นประจำมีหลักฐาน ไม่ได้ทิ้งลูก ฝากคนคอมเมนต์ด้วยว่าควรจะรับฟังสองมุม
ด้านนายเหรียญ พิเนตร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 บ้านยางงาม กล่าวว่า ตอนนี้มีสองฝั่งที่พูดไม่เหมือนกัน คือประเด็นที่เด็กดึงพวงมาลัยกับรถเสียหลัก เพราะหันไปดูลูกอาเจียน แต่หลายคนได้ยินเหมือนกันว่า "ลูกเล่นพวงมาลัย" เพราะชาวบ้านถ่ายคลิปอะไรไว้มากมาย

นายเหรียญกล่าวด้วยว่า จริงแล้วจุดเกิดเหตุไม่ใช่เป็นทางโค้ง ตรวจสอบแล้วรถไม่มีแม้รอยเบรก ส่วนความเร็วเป็นไปไม่ได้ที่จะขับมาเพียง 70-80 กม./ชม. เพราะถ้ารถขับช้า รถยนต์จะไม่เตลิดมาถึงขอบสระฝั่งนี้ โดยเฉพาะสภาพรถจักรยานยนต์ล้อหน้ากับล้อหลังพับมาติดกันเป็นวงกลม มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่คนขับรถจะมีคนสอนมาก่อนหน้านี้ว่าจะให้พูดแบบไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.พิรุณ ได้เดินทางมากราบศพเด็กทั้งสองแล้ว พร้อมกับมาชี้แจงให้กับพ่อเด็กและยายเด็กให้ฟังว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาลูก 2 ขวบมานั่งตักแล้วขับรถ ตอนนี้ต้องการจะมาเยียวยามากกว่า โดยพ่อเด็กกับยายเด็กนั่งฟังโดยไม่ตอบโต้อย่างไร มีเพียงสายตาที่ไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของ น.ส.พิรุณ
ทางด้าน พ.ต.ท.วัฒนา มางาม รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบบันทึกหลักฐานไว้ครบถ้วน แล้วเรียกคนขับรถมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หลักฐานที่พบชัดเจนว่ารถยนต์เป็นฝ่ายผิด เพราะข้ามเลนมาพุ่งชน ส่วนภาพในรถจะใช้หรือไม่ก็ได้ เพราะหลักฐานที่เกิดเหตุแน่นแล้ว พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย