ญาติส่งร่างอดีต "ผู้กำกับโจ้" ชันสูตร รพ.จุฬาฯ เพิ่มเติม หลังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เผยผลชันสูตรศพ ชี้ชัดขาดอากาศหายใจ เนื่องจากใช้ผ้าผูกรัดคอด้วยตนเอง รอตรวจสอบสารพิษในยาเพิ่ม รอผล 2-4 สัปดาห์

เมื่อเวลา 11.45 น. ของวันที่ 9 มีนาคม 2568 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมด้วย นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของอดีต ผกก.โจ้ และ นายรัฐวิช จิสุจริตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย กรมการปกครอง ได้ร่วมกันออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังจากที่ได้ร่วมกันเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ในห้องปฏิบัติการผ่าพิสูจน์ร่างอดีตผู้กำกับโจ้

ทางด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า เราได้ทำการชันสูตรพลิกศพโดยมีผู้สังเกตการณ์โดยมีตัวแทนของอดีตผู้กำกับโจ้ ตัวแทนของการชันสูตร 4 ฝ่าย โดยมีตัวแทนของฝ่ายปกครอง ท่านอัยการ และในส่วนของอนุกรรมการกลั่นกรองกรณีการทำงานตาม พ.ร.บ.สูญหายและทรมาน ซึ่งเป็นคำสั่งของ รมต.ก็ได้รับการขออนุญาตจากญาติแล้ว

...

จากการที่ได้ตรวจศพเบื้องต้นเราก็ตรวจของการเสียชีวิต ในเบื้องต้นเราให้น้ำหนักไปทางในเรื่องของการทำร้ายตัวเองเสียชีวิตมากกว่า ในเรื่องของการถูกทำร้ายอื่นๆ เราไม่พบบาดแผลที่ถูกทำร้ายชัดเจน โดยบาดแผลก็จะมีฟกช้ำตามร่างกาย บริเวณสะโพก ซึ่งเป็นรอยฟกช้ำเก่า อันนี้ทางห้องปฏิบัติการจะทำการตรวจเพิ่มเติมว่า ระยะเวลาการฟกช้ำนั้นนานแค่ไหน บาดเจ็บเกิดขึ้นเมื่อไร

“โดยทางญาติเข้าไปดูที่เกิดเหตุพบว่ามีเลือดที่จุดพบศพนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร” โดยเลือดที่ออกพอดีผมไม่ได้ดูที่เกิดเหตุ แต่ผมได้สอบถามทางคณะที่ไปชันสูตรที่เกิดเหตุเป็นไปได้ทั้งสองกรณี โดยกรณีแรกเราสงสัยว่าเป็นเลือดที่ออกมาจากการเสียชีวิต ซึ่งหลังจากที่เสียชีวิตแล้วก็จะมีของเหลวไหลออกจากร่างกาย ซึ่งก็จะออกมาจากทางปาก และบริเวณอื่นๆ อันที่ 2 ก็มาจากบาดแผล แต่บาดแผลเราพบแผลถลอกที่บริเวณท้องแขนเท่านั้น ก็เลยคาดว่าน่าจะเป็นเลือดที่ออกมาจากของเหลวทางร่างกายมากกว่า หลังเสียชีวิตแล้ว ได้ทราบว่าพิสูจน์หลักฐานได้เก็บเอาไปตรวจสอบแล้ว และจะบอกได้ว่าเลือดที่ออกมามาจากไหน โดยแผลถลอกนั้นน่าจะเกิดจากการที่นำร่างลงมาอาจจะไปขูดกับอะไรสักอย่าง ก็เป็นสิ่งที่เจอตั้งแต่ตอนชันสูตรเบื้องต้น โดยเป็นแผลที่เกิดใหม่

“สาเหตุของการเสียชีวิต” ในเบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องของการขาดอากาศเนื่องจากการผูกคอเสียชีวิต โดยเท่าที่ดูเราให้น้ำหนักไปทางกระทำด้วยตนเองมากกว่า เพราะลักษณะของแรงที่เกิดขึ้นเราไม่พบรอยที่ช้ำที่บริเวณของเนื้อเยื่อ ใต้ลำคอใต้รอยรัด เราไม่พบรอยช้ำจากกระดูกกล่องเสียง เราพบว่าแรงที่มากระทำไม่เยอะมาก พอแรงกระทำไม่เยอะมากจึงเข้าได้กับการผูกคอเสียชีวิตไม่ใช่การรัดคอ

นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของอดีตผู้กำกับโจ้ กล่าวว่า ก็ต้องดูข้อเท็จจริงในส่วนของท่านทวี ที่ดูแลอยู่ เราก็ต้องรวบรวมข้อมูลก่อน “ในส่วนประเด็นที่เคยไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น แล้วเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ไม่ให้ความร่วมมือทางเราจะดำเนินการยังไงต่อและจะมีการแจ้ง 157 ด้วยหรือไม่” อันนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรมากแล้วจะได้ดำเนินการต่อ พร้อมทั้งญาติได้เดินทางไปลงบันทึกไว้ที่ สน.ประชาชื่น ว่าญาติติดใจในการเสียชีวิต

ในส่วนที่ร้องขอให้นำศพไปผ่าที่ รพ.จุฬาฯ อีกครั้งนั้นเป็นการขอให้ผ่าเปรียบเทียบกันเฉยๆ ทางญาติอยากให้มีทั้งสองส่วนในการพิสูจน์ เพราะอยากได้ข้อมูลมาเปรียบเทียบกัน หากข้อมูลไม่ตรงกันนั้น เราก็ต้องดูข้อมูลจากสถาบันนิติเวชทั้งสองแห่งก่อน

“ในส่วนผู้กำกับโจ้นั้นถูกลงโทษ หรือขอแยกไปขังเดี่ยวเอง” ขอยืนยันเลยว่าเขาแจ้งตลอดว่าเขาอยากออกจากขังเดี่ยวนะครับ เขาไม่ได้มีการขอที่จะขังเดี่ยว เขาแจ้งญาติตลอดแล้วก็ทางทนาย ซึ่งเป็นการเหมือนถูกลงโทษแล้วไปขังเดี่ยว โดยประมาณ 2 เดือนแล้วหลังจากที่ถูกทำร้าย โดยถูกแยกไปขังเดี่ยว ส่วนสาเหตุเราไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรโดยต้องถามทางญาติ เพราะเราได้รับแจ้งว่าถูกไปขังเดี่ยวเท่านั้น

ด้าน นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ ผอ.สสอ.เปิดเผยว่า จากการเข้าไปร่วมชันสูตรเราพบผ้าขนหนูผืนเล็กโดย 1 ชิ้นขาดออกจากการที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ใช้มีดตัดช่วยเหลืออีกชิ้นอยู่ที่ศพ ในห้องที่พบเห็นก็มีของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย เช่น กล่องยาของผู้ตายไม่มีสิ่งของอื่น โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บไปเพื่อทำการตรวจสอบ

...

ต่อมาเวลา 13.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพอดีตผู้กำกับโจ้ออกมาขึ้นรถกู้ภัยเพื่อเดินทางไปที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อทำการผ่าพิสูจน์อีกครั้ง โดยมีแม่ น้องสาว และภรรยา เดินทางไปกับรถด้วย