รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยผลการชันสูตรศพอดีต "ผู้กำกับโจ้" ไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย ให้น้ำหนักไปในทางทำร้ายตัวเอง เตรียมส่งชันสูตรศพอีกครั้งที่ รพ.จุฬาฯ
วันที่ 9 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร้อยตำรวจเอก โชคชัย สิทธิผลกุล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยส่วนเกี่ยวข้องประกอบด้วยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริง กรณีการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย (ตำรวจ, อัยการ, ปกครอง, กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมคุ้มครองสิทธิ) พร้อมด้วยทนายความและญาติของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต "ผู้กำกับโจ้” ร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรศพอดีตผู้กำกับโจ้
นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม เปิดเผยว่า จะใช้เวลาในการผ่าชันสูตรศพประมาณ 1 ชม. จะแล้วเสร็จโดยจะเริ่มทำการผ่าศพเวลาประมาณ 10.00 น. โดยจะมีทางครอบครัวร่วมในการสังเกตการณ์ด้วย หลังจากนั้นจะออกมาให้ข้อมูล
ต่อมา นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า การผ่าชันสูตรศพอดีตผู้กำกับโจ้เท่าที่ได้ตรวจเบื้องต้น ให้น้ำหนักในเรื่องของการผูกคอเสียชีวิตมากกว่า เพราะว่าในเรื่องของการถูกทำร้ายอื่นๆ เราไม่พบบาดแผลที่มีความชัดเจนขนาดนั้น
ในส่วนของรอยแผลพบว่า ร่างกายมีร่องรอยจะมีบาดแผลฟกช้ำ บริเวณสะโพก บริเวณหลัง ซึ่งจะเป็นลักษณะรอยช้ำเก่า ทั้งนี้การตรวจของห้องปฏิบัติการจะตรวจเนื้อเยื่ออีกครั้งว่าบาดแผลเกิดในช่วงใด
...
เมื่อถามถึงในส่วนของเลือดที่ออกนั้น ตนไม่ได้ดูที่เกิดเหตุ แต่ได้สอบถามจากคณะชันสูตรในที่เกิดเหตุ เป็นไปได้ 2 กรณี คือ สงสัยว่าเป็นเลือดที่ออกมาจากการเสียชีวิต หลังเสียชีวิตแล้วจะมีของเหลวในร่างกายออกมา ลักษณะจะคล้ายเลือดออกมาทางปาก หรือออกมาจากบริเวณอื่น ส่วนกรณีที่ 2 คือออกมาจากบาดแผล ซึ่งเราพบบาดแผลถลอก ในบริเวณของแขนเท่านั้นเอง จึงคิดว่าจะเป็นของเหลวที่ออกมาจากร่างกาย ภายหลังเสียชีวิตแล้ว และทราบว่า ทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เก็บเอาไปตรวจแล้ว เมื่อวิเคราะห์แล้วก็จะบอกได้ว่าเป็นอะไร ส่วนแผลถลอกไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร แต่จากการสอบถามพนักงานฝ่ายปกครอง เห็นตั้งแต่ช่วงชันสูตรศพที่เกิดเหตุแล้ว คาดว่าเกิดจากการนำร่างลงมาแล้วครูดกับของแข็ง
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นบอกว่าเป็นเรื่องของการขาดอากาศ เนื่องจากการผูกคอเสียชีวิต เท่าที่ดู เราให้น้ำหนักในเรื่องการกระทำด้วยตัวเองมากกว่า เพราะว่าลักษณะของแรงที่เกิดขึ้น เราไม่พบรอยช้ำที่บริเวณเนื้อเยื่อใต้ลำคอ ไม่พบการช้ำของกล้ามเนื้อลำคอ ไม่พบการบาดเจ็บของกระดูกกล่องเสียง จึงให้เหตุผลว่าแรงที่มากระทำไม่เยอะมาก เข้าได้กับการผูกคอเสียชีวิต ไม่ใช่จากการรัดคอ
ถามว่ารอยแผลสอดคล้องกับผ้าขนหนูหรือไม่ ตนเองไม่เห็นผ้าขนหนู แต่ในกรณีของรอยแผลเข้าได้กันกับลักษณะของผ้า ที่มีความกว้างค่อนข้างกว้างกว่ารอยเชือก คือกว้างประมาณ 1.4 เซนติเมตร
เมื่อถามถึงใต้เล็บของผู้ตายพบดีเอ็นเอของผู้อื่นหรือไม่ เรื่องนี้ต้องใช้เวลาในห้องปฏิบัติการ ซึ่งมีการเก็บไปตรวจแล้ว ในส่วนของยาที่กินเข้าไป ต้องใช้การตรวจปัสสาวะและเลือดที่ได้จากศพก่อน จะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
ทั้งนี้ ก่อนชันสูตรศพ เราได้คุยกับญาติก่อนว่ามีความกังวลในเรื่องใดเป็นพิเศษ ซึ่งญาติมีความสงสัยเรื่องการบาดเจ็บที่กระดูกชายโครง ซึ่งเกิดขึ้นมาประมาณ 2 เดือนแล้ว จึงต้องมีการใช้เครื่องทีซีสแกน เพราะบาดแผลอาจจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ส่วนผลยังไม่ได้วิเคราะห์ออกมา ซึ่งจะต้องลงรายละเอียดในรายงานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จะมีการส่งร่างของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปตรวจชันสูตรศพที่ รพ.จุฬาฯ เวลาประมาณ 14.00 น. เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลจาก 2 แหล่งอีกครั้ง หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.