"ผู้กองเข้ม" แอบบวชเงียบ ตั้งใจจำวัด 3 เดือน ไม่ขอพูดถึงปม "หวยอลเวง 12 ล้าน" หลังแบ่งกับ "ยายแหล่" ร้านลาบ ไม่ลงตัว

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ พัฒนภูมิเศษฐ อายุ 65 ปี หรือ ผู้กองเข้ม อดีตตำรวจตระเวนชายแดนเกษียณราชการ เจ้าของหวยอลเวง 12 ล้านบาท เข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถวัดหัวบึงทุ่ง ได้ฉายา ฐิติวฑฺฒโน โดยตั้งใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากตกเป็นข่าวดังกรณีถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 17 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา แต่มีเรื่องทุกขลาภ เนื่องจากก่อนถูกรางวัล ผู้กองเข้มแบ่งลอตเตอรี่ที่ซื้อมาทั้งหมด 2 ใบให้ นางบุญล้อม มิควาฬ หรือ ยายแหล่ อายุ 68 ปี เจ้าของร้านลาบ ในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม คนละ 1 ใบ พอถูกรางวัลจึงแยกกันนำลอตเตอรี่ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ธาตุพนม พร้อมขึ้นเงินรางวัลที่ร้านทองแห่งหนึ่งรับคนละ 6 ล้านบาท

ต่อมา ทางผู้กองเข้ม เจ้าของหวยอลเวง 12 ล้าน มีการเจรจาขอเงินคืนกับยายแหล่ เจ้าของร้านลาบที่สนิทกันประมาณ 2 ล้านบาท แต่ตกลงกันไม่ได้ เพราะยายแหล่ถือว่ามีการแบ่งให้ก่อนที่จะถูกรางวัลคนละใบ แต่ยอมที่จะคืนเงินให้ประมาณ 5 แสนบาท จึงเกิดปัญหา ทำให้ผู้กองเข้มเข้าแจ้งความกล่าวหาเอาผิดยายแหล่ ฐานความผิดยักยอกทรัพย์

แต่ทั้งสองฝ่ายเงียบหายไปไม่ยอมมาเจรจาไกล่เกลี่ย และให้การเพิ่มเติมกับตำรวจ อยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย รอสรุปสำนวนส่งอัยการ จึงกลายเป็นปัญหาคาใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่ทางตำรวจดูจากเอกสารหลักฐาน ให้น้ำหนักไปที่ให้โดยเสน่ห์หา เพราะมีเอกสารหลักฐานลงประจำวัน แยกกันไปขึ้นรางวัลชัดเจน

...

ขณะเดียวกัน หลังทราบว่าผู้กองเข้ม เข้าสู่พิธีอุปสมบทแบบเรียบง่าย มีเพียงคนสนิทไม่กี่คนที่ร่วมอนุโมทนาบุญที่วัดหัวบึงทุ่ง โดย พระครูสุวิมลธรรมสถิต เจ้าคณะอำเภอธาตุพนม เจ้าอาวาสวัดหัวบึงทุ่ง ต.ธาตุพนมเหนือ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เป็นพระอุปัชฌาย์ ยืนยันว่าผู้กองเข้มเข้าสู่ประกอบพิธีอุปสมบทจริง เมื่อเช้าวันนี้เวลา 09.36 น. ได้ฉายา ฐิติวฑฺฒโน โดยตั้งใจจะจำวัดเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา

ทั้งนี้ หลังอุปสมบทได้เดินทางไปจำวัดที่สำนักสงฆ์ วิปัสสนากัมมัฏฐาน สวนสมเด็จบ้านดอนกลาง ต.ธาตุพนมใต้ จ.นครพนม เนื่องจากเป็นวัดที่เคยไปอาศัยอยู่ในช่วงมีปัญหาชีวิต หลังเกษียณราชการ ภรรยาเสียชีวิต

จากนั้นได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์ วิปัสสนากัมมัฏฐาน สวนสมเด็จ บ้านดอนกลาง พบ พระครูภาวนาวิชยมงคล อายุ 62 ปี พระที่ดูแลสำนักสงฆ์ กำลังนำพระเข้ม รวมถึงพระภิกษุสงฆ์ในวัดทำวัดเย็น ก่อนที่จะมีการแนะนำหลักธรรมคำสอน ระเบียบวินัยสงฆ์ ให้กับพระเข้มในฐานะพระอุปสมบทใหม่ เพื่อให้ปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย หลักธรรมคำสอนพระพุทธศาสนา พร้อมมีนายเกรียงไกร ศักดี อุปนายกสมาคมสื่อมวลชนนครพนม ในฐานะคนสนิท และเคยเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยหวยอลเวง ไปร่วมอนุโมทนาบุญด้วย

ขณะที่ ฐิติวฑฺฒโน พระเข้ม เผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ เพราะเป็นความตั้งใจมาตลอด ส่วนระยะเวลาในการอุปสมบท ตั้งใจจะอยู่ปฏิบัติธรรมตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาให้ครบ 3 เดือน หรือจนครบ 1 พรรษา ยอมรับว่าจิตใจสงบร่มเย็นขึ้น แต่ไม่ขอพูดเรื่องปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับความขัดแย้งหวยอลเวงกับยายแหล่ ขอตัดจากโลกภายนอกเข้าสู่ทางธรรม ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ พร้อมวิงวอน ไม่ให้สื่อมวลชนมารบกวน เพราะขอปฏิบัติธรรมอยู่ในพระธรรมวินัยให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดอานิสงส์กับตนเองและครอบครัว

ทางด้าน นายเกรียงไกร ศักดี อุปนายกสมาคมสื่อมวลชนนครพนม ในฐานะคนสนิท พระเข้ม และเคยเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยหวยอลเวง กล่าวว่า อยากให้ทั้งสองจบกันด้วยดี เพราะต่างคนเคยสนิทสนมคุ้นเคยกัน เคยมีการเจรจากันหลายครั้งไม่ลงตัว ล่าสุดทราบว่ามีการตกลงกันที่ประมาณ 5-6 แสนบาท เพื่อนำเงินมาคืนให้พระเข้ม แต่ยังไม่มีข้อสรุป

อย่างไรก็ตาม พอรู้ว่าพระเข้มเข้าอุปสมบท ดีใจขออนุโมทนาบุญด้วย และฝากถึงยายแหล่มาเจรจากันให้จบ คิดเสียว่าเงินที่เจรจาขอคืนกัน เป็นการนำมาร่วมทำบุญ ทั้งสองฝ่ายจะได้จบกันด้วยดี.