"ตำรวจสอบสวนกลาง" จับกุมผู้ลักลอบจำหน่าย "บุหรี่ไฟฟ้า" ใกล้สถานศึกษาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล กว่า 10 จุด พบของกลางกว่า 3,000 ชิ้น
วันที่ 1 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.หญิง วณิชยา ไชยปรุง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม
1. น.ส.วิชุดา อายุ 27 ปี
2. น.ส.วิวรรณธณี อายุ 23 ปี
3. นายสันติภาพ อายุ 23 ปี
4. น.ส.บุญนภิส อายุ 29 ปี
5. น.ส.กรวิภา อายุ 36 ปี
6. น.ส.ชญาดา อายุ 24 ปี
7. น.ส.ณภัคธิดา อายุ 29 ปี
8. น.ส.จารุณี อายุ 44 ปี
9. นายกีรศักดิ์ อายุ 26 ปี
10. น.ส.สุกรรณิกา อายุ 38 ปี
สำหรับสถานที่จับกุม มีดังนี้
1. ร้านบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม.
2. ห้องแถวไม่ติดเลขที่ ตลาดรวมมาร์เก็ต ประชาอุทิศ 90 ต.คลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
3. บริเวณ ม.3 ต.คลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
4. บริเวณ ซอยลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
5. ร้านบริเวณแขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
6. ร้านบริเวณโรงไม้ 110 ถ.เพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.
7. ร้านไม่มีชื่อ ซ.สะแกงาม 35/2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
8. ห้องแถวไม่ติดเลขที่ ถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
9. ร้านบริเวณ ซอยรังสิต-นครนายก 18 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
10. ห้องแถวไม่ติดเลขที่ ถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
...
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีนโยบายในการเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวัง เด็กและเยาวชนตามโรงเรียน สถานศึกษา หรือที่มีแหล่งข่าวว่ามีสถานที่พัก ลักลอบเก็บอุปกรณ์ สิ่งของ และนำออกไปจำหน่ายให้เด็ก เยาวชน นักศึกษา หรือใกล้สถานประกอบกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ
ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) สั่งชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ปอศ. กำหนดจุดเป้าหมายเพื่อระดมตรวจค้นจับกุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและในเขตปริมณฑล ในจุดที่ใกล้เคียงสถานศึกษาและชุมชน โดยเป็นการป้องกันไม่ให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า
รวมถึงการกวดขันการลักลอบจำหน่ายทางแพลตฟอร์มและสื่อออนไลน์ต่างๆ ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ได้จำนวน 10 ราย พร้อมของกลางกว่า 3,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 300,000 บาท ซึ่งการกระทำดังกล่าวผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้มาเปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องด้วยเล็งเห็นว่าในปัจจุบันเป็นสินค้าที่มีความต้องการในกลุ่มบุคคลทั่วไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ซึ่งนอกจากจะมีการจำหน่ายทางหน้าร้านแล้วยังมีการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เพื่อเพิ่มให้ง่ายในการเข้าถึง
อย่างไรก็ตาม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิดและฝากเตือนถึงประชาชน หากมีการ "ลักลอบนำเข้า ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด มีอัตราโทษตามกฎหมาย" อีกทั้งบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติม มีส่วนผสมของสารเคมีที่อันตราย ส่งผลเสียต่อร่างกายมากมาย.