ตำรวจขอนแก่น เร่งเช็กกล้องวงจรปิด ตามหาคนร้ายบุกเข้ามหาวิทยาลัยใช้ด้ามปืนตบหน้า "นักศึกษา" ด้านคนเจ็บยืนยัน ไม่เคยมีเรื่องกับใคร

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ตามหาเบาะแสคนร้าย ที่บุกมาทำร้ายร่างกายของ "น้องชาย" ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น โดยใช้อาวุธลักษณะคล้ายปืนทุบเข้าที่หน้าจนบาดเจ็บ ทำให้หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุดวันที่ 16 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามกัฟบนักศึกษาที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า หลังเลิกเรียน วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา เห็นคนเจ็บนั่งเล่นเกมกับกลุ่มเพื่อน ตรงข้ามตึก 11 ก็มีคนร้าย น่าจะเป็นนักศึกษา มาจากอีกสถาบัน ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาคนเดียว แล้วมีการทักทายพูดคุยกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย

จากนั้นเห็นในมือถือสิ่งของ เดินเข้าไปฟาดที่หน้าคนเจ็บ พร้อมกับพูดเสียงดังว่า "มึงจะเอายังไงกับกู" ซึ่งหลังก่อเหตุ คนร้ายยังเดินคุยกับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่นานก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป เพื่อนคนเจ็บจึงนำคนเจ็บส่งที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ส่วนคนเจ็บจะมีปัญหากับคนร้ายเรื่องอะไรนั้น ไม่ทราบจริงๆ แต่เพื่อนสนิทของคนเจ็บน่าจะรู้สาเหตุ

ต่อมา นางราตรี อภิญญามนตรี อายุ 43 ปี น้าสาว ได้พานายสหรัฐ แก่นนาคำ อายุ 17 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นหลานชาย และเป็นที่ถูกวัยรุ่นรายดังกล่าวบุกเข้าไปทำร้าย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าในการสืบสวน จับกุมคนก่อเหตุ

โดยนางราตรี กล่าวว่า จากคำบอกเล่าของคนที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า คนร้ายก็เป็นวัยรุ่นเช่นกัน มาจากสถาบันอื่น มาถึงก็มาทำร้ายหลานชาย โดยก่อนจะทำร้าย คนร้ายได้ขึ้นลำปืน แต่ปืนขัดลำกล้อง จึงไม่ได้ยิง คนร้ายจึงใช้ด้ามปืนทุบทำร้ายหลานชาย

...

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นความรุนแรงและไม่ปลอดภัย จึงอยากให้ทางมหาวิทยาลัย เพิ่มมาตรการในการตรวจคนเข้าในมหาวิทยาลัยด้วย และติดตั้งวงจรปิดในจุดที่เป็นมุมอับ และตามจุดต่างๆ โดยรอบ ม. เพื่อยามเกิดเหตุ วงจรปิดจะสามารถบันทึกภาพไว้ได้ และในกรณีที่เกิดขึ้น คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุจะเป็นใครก็ตาม แม้ว่าจะมาเยียวยา หรือมาขอโทษ ก็สามารถทำได้ แต่ในทางกฎหมายก็ยังยืนยันให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับคนอื่นอีก

ทางด้าน นายสหรัฐ หรือ น้องกัปตัน แก่นนาคำ อายุ 17 ปี คนเจ็บ กล่าวว่า ไม่เคยมีเรื่องขุ่นเคืองใจกับเพื่อนหรือรุ่นพี่ในสถาบัน หรือต่างสถาบัน จึงคิดไม่ออกว่าถูกทำร้ายจากชายคนดังกล่าวด้วยเรื่องอะไร แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ก็อยากให้มหาวิทยาลัย ทำการตรวจคนเข้ามาเข้มงวดมากขึ้น จากที่เคยตรวจเข้มในช่วงเช้าถึงช่วงบ่าย ก็อยากให้ตรวจเข้มตลอดทั้งวัน เพราะเกรงจะมีคนเข้ามาทำร้ายนักศึกษาได้อีก ส่วนบาดแผลที่ถูกทำร้ายนั้น บาดเจ็บที่คิ้วซ้าย เย็บ 4 เข็ม และยืนยันจะเอาเรื่องคนร้ายให้ถึงที่สุด

ทางด้าน พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิช ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้น มีเหตุการณ์เกิดขึ้นใน ม.ราชมงคล จริง และผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเยาวชนเดินทางมาแจ้งความกับ ร.ต.ท.อภิสิทธิ์ เหล็กสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา

โดยทราบว่า หลังเลิกเรียน ผู้เสียหาย ได้นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ใต้คณะไฟฟ้า ม.ราชมงคลอีสาน ก็ได้มีชายไม่ทราบชื่อ แต่งกายสวมเสื้อกันหนาวสีน้ำตาลดำ กางเกงขายาว ทรงผมรองทรงแสกกลาง ใช้วัตถุคล้ายอาวุธปืน ใช้ด้ามตบที่หน้าข้างซ้ายของผู้เสียหาย จำนวน 1 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บ มีเพื่อนๆ เห็นเหตุการณ์เพื่อนเข้ามาห้ามปรามและแยกจากกันไป จากนั้นเพื่อนๆ พาผู้เสียหายได้ไปรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ซึ่งแพทย์ตรวจบาดแผล พบว่ามีแผลถูกทำร้ายที่คิ้วซ้าย เย็บ 4 เข็ม

จากนั้นจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ทำการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีกับคนก่อเหตุตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนจึงได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ เพื่อจะดำเนินการสอบสวน และประสานชุดสืบสวน ทำการสืบสวน หาตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ลงพื้นที่สอบปากคำคนที่เห็นเหตุการณ์ และตรวจสอบวงจรปิดใน ม.ราชมงคล และตามเส้นทางที่คนร้ายขี่รถเข้าออกใน ม.ราชมงคล เพื่อหาเบาะแสว่า คนร้ายเป็นเพื่อน หรือรุ่นพี่ในสถาบันเดียวกัน หรือวัยรุ่นข้างนอกเข้ามาก่อเหตุในวิทยาลัย ในส่วนของผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่รู้จักกับคนก่อเหตุและไม่เคยมีเรื่องแค้นเคืองกับใคร จึงไม่รู้สาเหตุการถูกทำร้าย.