เปิดพฤติกรรม ผู้ก่อเหตุฆ่าอำพราง 3 ศพ ตีสนิทติดตามนักข่าว หวังเบี่ยงประเด็นสื่อ ซ้ำเนียนแฝงตัวกับชาวบ้านวันพบศพจุดเกิดเหตุ
จากเหตุการณ์สุดสลด พบศพพ่อแม่ลูก 3 ราย ถูกฆ่าอำพรางในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังหายตัวไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค.68 ต่อมาตำรวจคุมตัว 3 ผู้ต้องสงสัย โดยมีคนรับสารภาพแล้ว 1 ราย แต่ในเรื่องทางคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครเป็นคนรับสารภาพ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลคดีต่อ (อ่านข่าว : คุมตัว 3 ผู้ต้องสงสัย เค้นสอบไขคดีฆ่าโหด 3 ศพพ่อแม่ลูก ยอมสารภาพแล้ว 1 ราย)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายเจษฎา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กำแพงเพชร และแอดมินเพจ โป๊ะซ่า เกิดมาคุย เปิดเผยว่า “ตนเองรู้สึกตกใจมากหลังทราบว่า “นายศิวกร” (โน้ต) ผู้ต้องสงสัยที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไปสอบปากคำ ได้รับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก และเป็นเจ้าของปืนบีบีกันดัดแปลงที่ใช้ในการก่อเหตุ
โดยในวันที่พบ 3 ศพในที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 13.00 น. นายเจษฎา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กำแพงเพชร ได้ขับรถยนต์เข้ามาจอดบนถนนหน้าจุดเกิดเหตุ และมีนายโน้ต ทำทีเดินตามพร้อมทักทายพูดคุยเรื่องการทำข่าวในจุดเกิดเหตุ แถมยังพูดกับผู้ใช้ข่าว ว่า มันโหด มันทำได้ยังไง และวนเวียนอยู่ในจุดเกิดเหตุแฝงตัวกับผู้คนและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินกลับไปที่รถหลังทำข่าวเสร็จ กำลังจะขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ นายโน้ตก็เดินตามไปจนถึงรถของผู้สื่อข่าวและถามว่าจะไปไหนต่อ ซึ่งผู้สื่อข่าวตอบว่าเดี๋ยวจะไปโรงพัก ซึ่งก็ยังเอะใจว่านายโน้ตคือใคร? ทำไมถึงดูเหมือนรู้จักกับตนแบบนี้
...
ต่อมาในช่วงเวลา 01.40 น. ของวันที่ 14 ก.พ.68 "นายโน้ต" ได้ทำทีส่งข้อความมาใน Line ของผู้สื่อข่าว ลักษณะแจ้งบอกแสว่าได้ข้อมูลจาก "นายโป๊งเหน่ง หรือนายบอล" น้องชายเมียผู้ตาย แจ้งว่าผู้ตายนำทองคำไปจำนำในตัวเมืองกำแพงเพชร จำนวนกี่บาทไม่แน่ใจ และถามว่ารู้เบาะแสหรือไม่? ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ตอบไปว่าไม่ทราบข้อมูลนี้ พร้อมแจ้งว่าพรุ่งนี้ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียงหน้ากระดานค้นหาหลักฐานที่จุดเกิดเหตุอย่างละเอียด โดยนายโน้ตได้ตอบกลับมาว่าหากตนได้ข้อมูลอะไรจะรีบแจ้งทันที
พอถึงช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.พ.68 เวลา 08.00 น. เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังจุดเกิดเหตุ หลังจอดรถปรากฏว่าพบนายโน้ต ยืนรออยู่และเดินตามผู้สื่อข่าวไปจนถึงทางเข้าจุดเกิดเหตุ และสอบถามว่าวันนี้จะทำอะไรกันบ้าง? ซึ่งก็ได้ตอบกลับไปว่าคงจะหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียด
โดยช่วงจากเสร็จภารกิจทำข่าวผู้สื่อข่าวได้เดินกลับมาที่รถปรากฏว่าในโน้ตก็เดินตามมาและสอบถามอีกว่าได้อะไรบ้าง? ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ตอบไปว่ายังไม่เจออะไรเลยและขับรถออกไป โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ช่วยฯ ว่าชายคนดังกล่าวที่ตามเรามาคือใคร? ทำไมทำทีสนิทและรู้จัก ซึ่งก็เอะใจอยู่เหมือนกันว่าเป็นใครกันแน่
จนช่วงบ่ายตำรวจได้มีการเรียกตัวนายโน้ตมาสอบสวนอย่างละเอียดและทราบว่า นายโน้ตเป็นเจ้าของปืนบีบีกันดัดแปลงและรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว ทำให้ "นายเจษฎา" รู้สึกตกใจกับสิ่งที่นายโน้ตได้ติดตามในการทำงานของตนเองมาตลอดสองวันไม่คิดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุและส่งข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงให้กับตน ซึ่งรู้สึกไม่ปลอดภัยในขณะนี้ โดยได้แจ้งข้อมูลไปยังผู้กำกับ สภ. คลองขลุง ถึงเรื่องดังกล่าวให้ทราบแล้ว
เบื้องต้นมีรายงานว่า ผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย 1.นายโน้ต ทำหน้าที่นำปืนไปจำนำกับผู้ตาย และเป็นคนยิง รวมถึงยังเป็นคนส่งข้อความ sms ให้นายโป๊งเหน่ง หรือ บอล น้องเมียนายวงศกร ผู้เสียชีวิต 2.นายนิรุธ หรือ ยศ ทำหน้าที่ซื้อซิมจากคนงานชาวเมียนมา 3.นายเข้ ทำหน้าที่ ช่วยยกศพและขับมอเตอร์ไซค์นำทางเข้าไปในที่เกิดเหตุ 4.นายชัยณรงค์ ให้ที่พักพิง แก่ นายโน้ต ศิวกร และเป็นคนเก็บซิมการ์ดเอาไว้ แต่ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ ซึ่งตำรวจยังสอบปากคำอย่างละเอียดคาดว่าน่าจะตลอดคืน ซึ่งผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งคนคือ “นายเข้” ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำ โดยในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะให้ทีมประดาน้ำลงค้นหาในสระหลังบ้านร้าง กว้าง 20 เมตร เพื่อหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผู้สื่อข่าวจะรายงานเข้าไปเป็นระยะ.