คนไทยยังเผชิญกับฝุ่น PM 2.5 ต่อเนื่อง แม้สัปดาห์นี้สถานการณ์ เริ่มดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ระดับสีส้ม มี “สุโขทัย” ระดับสีแดง 1 จังหวัด ส่วนภาคอีสานดีขึ้น คาดฝุ่นจะกลับมาอีกตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.เป็นต้นไป ขณะที่ กทม. ภาคตะวันออก ภาคเหนือ จมฝุ่นอีก 3-4 วัน ต้นสัปดาห์หน้าถึงจะเบาบางลงบ้าง “จิสด้า” ชี้ทั่วไทยยังเจอจุดความร้อนทะลุพันจุด ส่วนมากอยู่ในพื้นที่ป่า-ทำเกษตร ด้าน สธ.ออก 5 มาตรการเพิ่มเติมสำหรับพื้นที่เฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเปิดศูนย์รองรับการอพยพประชาชนสำหรับกลุ่มเปราะบางและผู้ป่วยติดเตียงเข้าพักคอยจนกว่าเป็นปกติ รวมถึงสื่อสารทุกช่องทาง แจ้งเตือนประชาชนเมื่อเข้าพื้นที่ฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ในช่วง 1 สัปดาห์ แจกหน้ากากอนามัยไปแล้ว 7.5 แสนชิ้น

สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในไทย ตลอดวันที่ 4 ก.พ. สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ระบุภาพรวมประเทศไทยในช่วงเช้าพบค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจในระดับสีส้ม 36 จังหวัด กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตกบางจังหวัด ส่วนกรุงเทพมหานคร ในรอบเวลาเดียวกัน สถานการณ์ฝุ่นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจในระดับส้ม จำนวน 11 เขต ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุด คือเขตหนองจอก

นอกจากนี้ ข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ VIIRS และจากข้อมูลดาวเทียมดวงอื่นๆของเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่าประเทศไทยมีจุดความร้อนรวม 1,009 จุด เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 284 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 223 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 211 จุด พื้นที่เกษตร 188 จุด พื้นที่ชุมชนและพื้นที่อื่นๆ 94 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านพบมากที่สุดที่ กัมพูชา 1,329 จุด เมียนมา 635 จุด สปป.ลาว 411 จุด เวียดนาม 276 จุด และมาเลเซีย 18 จุด

...

ต่อมาที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ.เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมว่า ที่ประชุมพิจารณามาตรการเพิ่มเติมสำหรับเขตพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ป้องกันและการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากได้รับการร้องขอจากพื้นที่จังหวัดต่างๆเพื่อประกาศมาตรการเพิ่มเติม ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 5 มาตรการ เพื่อให้อธิบดีกรมควบคุมโรค ถือปฏิบัติและส่งข้อมูลไปยังพื้นที่ต่างๆ ประกอบด้วย 1.มาตรการลดการสัมผัสฝุ่น PM 2.5 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดศูนย์รองรับการอพยพประชาชน สำหรับกลุ่มเปราะบางและผู้ป่วยติดเตียงเข้าพักคอยจนกว่าสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อยู่ในภาวะปกติ 2.การสื่อสารความเสี่ยง เช่น แจ้งเตือนประชาชนเมื่อเข้าพื้นที่ฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ผ่านช่องทางต่างๆหรือให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เคาะประตูบ้านให้ความรู้ประชาชน 3.การเฝ้าระวังสุขภาพเชิงรุกให้ อสม.คัดกรองสุขภาพประชาชนเชิงรุกด้วยแบบ สอบถามผ่านระบบออนไลน์ เก็บพิกัดบ้านของผู้ที่ได้รับการคัดกรอง 4.การเฝ้าระวังเชิงรับ ให้หน่วยบริการสุขภาพ คัดกรองผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคหรืออาการจากฝุ่น PM 2.5 เพื่อเป็นข้อมูลให้แพทย์วินิจฉัยโรค ลงรหัสโรคที่เกี่ยวกับฝุ่น PM 2.5 และ 5.การแจ้งระบบรายงานและการสอบสวนโรค เน้นย้ำเจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน สถานศึกษาหรือสถานที่อื่นๆให้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่กรณีพบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคหรืออาการจากฝุ่น PM 2.5

ด้าน นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 4 ก.พ. ภาพรวมค่าเฉลี่ยระดับสีแดงมี 1 จังหวัด คือสุโขทัยระดับสีส้มมี 42 จังหวัดอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ มีบางส่วน ภาคใต้ยังเป็นสีเขียว คาดการณ์ 7 วันข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 5-6 ก.พ. แม้จะมีสภาพอากาศค่อนข้างดีขึ้นแต่จะกลับมามีฝุ่นอีกตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.เป็นต้นไป ขณะที่ กทม.ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ยังมีฝุ่นอยู่ 3-4 วันที่มีความเข้มข้นค่อนข้างสูง ต้นสัปดาห์หน้าถึงจะเบาบางลงเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลาง ยังต้องดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.68 สธ.ได้แจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนไปแล้ว 7.5 แสนชิ้น

นพ.วรตม์กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ได้มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุขกรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ได้มีการกำชับหน่วย สธ.ที่มีงานก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างดำเนินการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่นละอองจากการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด และให้ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องของผู้รับบริการผู้ป่วยเฝ้าระวังทั้ง 4 กลุ่มโรค ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่น เช่น การสนับสนุนหน้ากากอนามัยให้กับกลุ่มเสี่ยง รวมถึงการเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กแบบเต็มรูปแบบตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ก.พ.เป็นต้นไป ทั้งนี้ย้ำ 5 ข้อป้องกันฝุ่น PM 2.5 ด้วยการเช็กค่าฝุ่น ใช้หน้ากากป้องกันทุกครั้ง เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ลดกิจกรรมที่ก่อฝุ่น และปิดประตูหน้าต่าง ทำห้องให้สะอาด

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่